นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยระหว่างตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ว่า ต้องการให้กรมการขนส่งทางบกเชื่อมโยงงานบริการให้สอดคล้องกับยุคไทยแลนด์ 4.0 มากขึ้น โดยให้ประชาชนสามารถใช้บริการของกรมได้ทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า และแอพพลิเคชั่น สามารถอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้ ทั้งนี้ ยังมีนโยบายด้านความปลอดภัย เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุ และเสียชีวิต โดยจัดโครงการสมาร์ทไดร์ฟเวอร์เพื่อสร้างวินัยจราจรให้แท็กซี่ รถโดยสารสาธารณะ และรถบรรทุก

สำหรับรถแท็กซี่นั้น ทางกรมการขนส่งทางบกจะไปหาวิธีเพื่อจะทำให้เป็นอาชีพที่มีเกียรติ ทำให้ทุกคนยอมรับ ซึ่งจะต้องทำให้รถแท็กซี่ทุกคันไม่มีการปฏิเสธผู้โดยสาร ซึ่งได้ให้กรมไปพิจารณาหาวิธีดำเนินการด้วย เพื่อให้เป็นอาชีพที่มีความภาคภูมิใจ เบื้องต้นอาจจะมีการกำหนดหลักสูตรขึ้นมาเพื่อใช้ในการอบรมแท็กซี่ที่มีอยู่ประมาณ 8 หมื่นคันโดยหลังจากผ่านการฝึกอบรมแล้วก็จะมีการมอบใบประกาศซึ่งจะคล้ายกับการรับปริญญาทางด้านอาชีพแท็กซี่ หากได้รับแล้วกระทำความผิดก็จะต้องมีการลงโทษ และนำออกจากระบบไป

นายอาคม กล่าวว่า ในส่วนของรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกก็จะต้องเข้มงวดคนขับรถ ห้านำแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านมาขับ จะต้องมีมาตรฐาน เพื่อให้เป็นอาชีพที่ถูกยอมรับ ขณะเดียวกันยังมีเรื่องของการก่อสร้างสถานีขนส่งสินค้า ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 2-3 จุดรอบกรุงเทพฯ ซึ่งจำเป็นจะต้องมีสถานีเปลี่ยนถ่ายและสถานีขนส่ง ส่วนที่ต่างจังหวัดในวันที่ 18 ม.ค.นี้ ก็จะเริ่มก่อสร้างที่สถานีเชียงของซึ่งถูกวางไว้ให้อยู่ติดชายแดน เพื่อเตรียมไว้ในการขนส่งระหว่างอาเซียนในอนาคต โดยจะเปิดบริการปี 2562 หลังจากนั้นก็จะมีการก่อสร้างที่นครพนมด้วย

สำหรับเรื่องการปรับขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นั้น มีคณะกรรมการกลางดูแลค่าโดยสารอยู่แล้ว ส่วนจะปรับขึ้นหรือไม่ก็อยู่ที่การพิจารณา ซึ่งเบื้องต้นพบว่าอัตราค่าโดยสารที่ ขสมก. ใช้ในปัจจุบันต่ำกว่าเพดานราคาที่กำหนดไว้ คือ 8.50-9 บาทอยู่แล้ว

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ขณะนี่อยู่ระหว่างพิจารณาในรายละเอียดเกี่ยวกับการกำหนดหลักสูตรขึ้นมาเพื่อใช้ในการอบรมรถแท็กซี่ โดยอาจจะให้สถาบันการศึกษาเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนจะเริ่มดำเนินการได้เมื่อไหร่คงต้องรอให้มีความชัดเจนกว่านี้ก่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน