ไทย ประกาศ ทำเอฟทีเอ กับ สหภาพยูเรเซีย 5 ประเทศ นำโดยรัสเซีย-ตั้งเป้าดันมูลค่าการค้าร่วมรัสเซียปีหน้า แตะ 10,000 ล้านเหรียญ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการหารือ ทวิภาคี ไทย-รัสเซีย กับนายมักซิม เรียชเชสนิคอฟ รมว.การพัฒนาเศรษฐกิจ สหพันธรัฐรัสเซีย ที่โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ วันนี้(21พ.ค.) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างงานประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22พ.ค.2565 ว่าไทยแจ้งรัสเซียว่าสนใจทำ FTA กับสหภาพยูเรเซีย 5 ประเทศประกอบด้วย รัสเซีย เบลารุส อาร์เมเนีย คาซัคสถานและคาร์กีซสถาน แต่ขณะนี้เกิดปัญหาอุปสรรคในการประสานงาน เนื่องจากไทยต้องใช้สถานทูตไทยในเจนีวา ในการประสานงาน ขณะที่บางประเทศในกลุ่มยูเรเซียไม่ได้มีสถานทูตในไทยและรัสเซีย นอกจากนี้ ยังขอให้มีการจัดประชุมคณะอนุกรรมาธิการด้านการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-สหพันธรัฐรัสเซีย ครั้งที่5 ขึ้นที่ประเทศไทยด้วย เพื่อขยายความร่วมมือด้านการค้าระหว่างกัน
ขณะที่ฝ่ายรัสเซีย ประกาศที่จะผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างกันในปี 2566 ให้ได้ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้ปีที่แล้วไปได้เพียง 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐก็ตาม รวมทั้งขอให้ไทยสนับสนุนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียให้สามารถใช้บัตร MIR Card ได้ และขอให้มีการเปิดเส้นทางบินตรงจากรัสเซียมายังไทย ซึ่งตนรับที่จะไปหารือร่วมกับกระทรงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงคมนาคมต่อไป
นอกจากนี้ รัสเซียยังสนใจที่จะนำเข้าสินค้าจากไทย เช่น อาหาร ข้าว ผลไม้ และชิ้นส่วนยานยนต์ และสนใจเข้ามาลงทุนด้านไอทีในไทย โดยขณะนี้มีการเข้ามาลงทุนบ้างแล้วที่อมตะนคร ขณะที่รัสเซียชวนไทยไปลงทุนในอุตสาหกรรมด้านอาหารที่รัสเซีย
สำหรับประเทศรัสเซียปัจจุบัน เป็นคู่ค้าลำดับที่ 30 ของไทย ปี 2564 มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 88,200 ล้านบาท หรือ 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ไทยส่งออก 32,500 ล้านบาท หรือ 1,027 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 41% สินค้าสำคัญ อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์ชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องจักรกล ผลไม้ เช่น ผลไม้กระป๋อง ผลไม้แปรรูป เป็นต้น โดยไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้า เพราะต้องนำเข้าน้ำมันดิบ ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืชและเหล็กมาใช้ในการผลิตทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม
