‘ศักดิ์สยาม’ จี้เร่งรัด รถไฟไฮสปีด ไทย-จีน ให้เป็นไปตามแผน จากทั้งหมด 14 สัญญา สร้างแล้วเสร็จ 1 สัญญา หวังไทยเป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่ง-โลจิสติกส์

วันที่ 24 มิ.ย.65 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามแนวทางการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ผ่านระบบประชุมทางไกล ว่า การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการติดตามนโยบายของ กระทรวงคมนาคม ที่ต้องการเร่งรัดการดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาล แห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) หรือโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ให้เป็นไปตามเป้าหมายและแผนงาน

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า รวมถึงเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการ เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยส่งเสริมการพัฒนา และกระจายความเจริญ รวมถึงการสร้างโอกาสอันดีแก่ประเทศไทยในการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ด้วยรถไฟความเร็วสูงควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณค่าอันโดดเด่นให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละจังหวัด

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า โดยโครงการระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทางประมาณ 253 กิโลเมตร มีสถานีทั้งหมด 6 สถานี ประกอบด้วย สถานีกลางบางซื่อ สถานีดอนเมือง สถานีอยุธยา สถานีสระบุรี สถานีปากช่อง และสถานีนครราชสีมา แบ่งสัญญางานโยธาออกเป็น ทั้งหมด 14 สัญญา ก่อสร้างแล้วเสร็จ 1 สัญญา อยู่ระหว่างก่อสร้าง 9 สัญญา เตรียมการก่อสร้าง 1 สัญญา และอยู่ระหว่างจัดซื้อจัดจ้าง 3 สัญญา

โดยรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน จะใช้ระบบรถไฟใช้ประเภทรถโดยสาร EMU (Electric Multiple Unit) กำลังขับเคลื่อนสูงสุด 5,200 กิโลวัตต์ มีความจุของขบวนรถ 600 ที่นั่งต่อขบวน ที่ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพถึงนครราชสีมา 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งถือเป็นการยกระดับมาตรฐานรถไฟไทย ให้มีความเจริญก้าวหน้า เป็นการลงทุนเพื่อวางรากฐานความมั่นคงด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของไทยในระยะยาว

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ทั้งนี้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในประเด็นโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ที่ยังมีประเด็นในสัญญา 3-1 ช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันไดม้า 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง และสัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ให้ รฟท. พิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัดให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามกำหนดการของโครงการ

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้กำชับต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนงานเพื่อผลักดันให้ระบบรางเป็นระบบหลักในการเดินทางและการขนส่งของประเทศ สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลในการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ของภูมิภาค สร้างศักยภาพและโอกาสใหม่ทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมถึงสนับสนุนการขยายตัวของเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจโดยรอบเส้นทาง เกิดการกระจายความเจริญอย่างทั่วถึง และลดความเหลื่อมล้ำของประเทศไทยต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน