พาณิชย์ เผย เงินเฟ้อ มิ.ย. 7.66% ชะลอ แต่ราคาพลังงานยังพุ่งขึ้น 39.97% ค่าไฟเพิ่มขึ้น 45.41% ขณะที่สินค้า 213 รายการปรับขึ้นราคา

วันที่ 5 ก.ค.65 นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผอ.สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภค หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทย เดือน มิ.ย. 2565 ว่า อยู่ที่ 7.66 % ปรับสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 7.10 % และเมื่อเทียบกับ พ.ค.2565 อยู่ที่ 0.90% ปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 1.40 % ส่วนอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 6 เดือนแรก อยู่ที่ 5.61%

สาเหตุที่เงินเฟ้อมิ.ย.ยังปรับสูงขึ้นเป็นผลมาจาก ราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ปรับเพิ่มขึ้น 6.42 % โดยเฉพาะอาหารสด ปรับเพิ่มขึ้น 5.87% เช่น เนื้อหมู ไก่สด ผัก น้ำมันพืช ซีอิ๊ว น้ำพริกแกง กาแฟผง รวมข้าวราดแกง ขณะที่หมวดที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ปรับเพิ่มขึ้น 8.49 % โดยสินค้ากลุ่มพลังงาน ราคาเพิ่มขึ้นมากถึง 39.97 % ค่าไฟเพิ่มขึ้น 45.41% และก๊าซหุงต้มเพิ่มขึ้น12.63 %

ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบการปรับราคาสินค้าช่วงเดือนมิ.ย.2565 กับเดือนก่อนหน้า พบว่า มีสินค้าปรับราคาเพิ่มขึ้น จำนวน 213 รายการ ปรับลดลง จำนวน 80 รายการ และไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 137รายการ

“เงินเฟ้อ7.66% ในเดือนมิ.ย. ถือว่าขยายตัวให้อัตราที่ชะลอตัวลง ต่ำกว่าที่หลายสำนักคาดว่าจะขึ้นไปถึง 8% เนื่องจากผู้ประกอบการภาคเอกชนให้ความร่วมมือภาครัฐในการตรึงราคาขายปลีกสินค้า และบางส่วนได้ทยอยปรับขึ้นราคาไปก่อนหน้านี้แล้ว

คาดว่าตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 เงินเฟ้อจะลดลงมากทางเทคนิค เพราะฐานเงินเฟ้อปีก่อนสูงมาก ส่วนทั้งปีจะอยู่ที่เท่าไหร่ประเมินยากมาก เพราะครึ่งปีหลังมีปัจจัย บวกและลบมาก เช่น ค่าเงินบาท มาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจ, การส่งออก ท่องเที่ยว ภาวะสงครามรัสเซีย การใช้นโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย รวมทั้งการกลับมาระบาดของโควิดในไทย แต่เบื้องต้นยังคงเป้าหมายทั้งปีไว้ตามเดิมคือ 4-5%โดยมีค่าเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 4.5% “

นายรณรงค์ กล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยว่า ต้องดูว่าจะช่วยสกัดเงินเฟ้อได้มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นขณะนี้เกิดจากปัจจัยภายนอกประเทศ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำมาก เมื่อพิจารณาอัตราเงินเฟ้อไทยเดือนพ.ค.2565 ที่อัตรา 7.10% จะเห็นอัตราเงินเฟ้อของไทยว่าไทยอยู่ในอันดับ 87 จากทั้งหมด 127 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศที่อยู่ในอันดับที่ 1 มีอัตราเงินเฟ้อสูงถึง 211% นอกจากนี้ ธนาคารโลก ยังคาดการณ์ว่าในปีนี้ไทยจะมีอัตราเงินเฟ้อเพียง 5.2% ซึ่งถือว่าต่ำมาก

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือน มิ.ย.2565 อยู่ที่ระดับ 44.3ปรับลดลง เมื่อ เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 44.7 สาเหตุเกิดจากความกังวลของประชาชนต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะราคาน้ำมันซึ่งเกิดจากมาตรการคว่ำบาตรของประเทศพันธมิตรต่อประเทศรัสเซีย ทำให้สินค้าโภคภัณฑ์มีราคาเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก และส่งผ่านมายังเศรษฐกิจไทย โดยกลุ่มพนักงานรัฐ และกลุ่ม เกษตรกร เป็นกลุ่มที่มีความเชื่อมั่นปรับลดลง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน