เปิดรับฟังความเห็น สลากเลข 3 หลัก ครั้งที่ 5 วันนี้ถกกันวุ่น ยันไม่ได้แข่งกับหวยใต้ดิน แค่ผลพลอยได้ดึงเงินมา ชี้มีคนเห็นต่าง 2 กลุ่ม ต้องฟังทุกฝ่าย

วันที่ 9 ส.ค.2565 ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ตามโครงการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและศึกษาผลกระทบทางสังคม เกี่ยวกับการกำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อจัดทำผลิตภัณฑ์สลากรูปแบบใหม่ หรือ สลากตัวเลข 3 หลัก (N3) และ สลาก 6 ตัว (L6) ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย หลังเปิดรับฟังไปแล้ว 5 ครั้งทั่วประเทศ

โดยบรรยากาศในช่วงเริ่มต้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่เมื่อประชุมกันไปได้สักระยะ ผู้ค้าที่มาแลกเปลี่ยนมีความคิดเห็นไม่ตรงกันในหลายเรื่อง ทั้งประเด็นการให้สิทธิขายสลากดิจิทัลแบบใบขายก่อนสลากแบบใบ , การตัดสิทธิการซื้อ-จอง , การจัดสรรโควตา , การให้สลากผู้ค้ารายละ 5 เล่มน้อยเกินไป และบางกลุ่มก็สนับสนุนการขายสลากแบบดิจิทัล เป็นต้น

นั่นทำให้ส่งผลมีผู้ขายบางส่วนไม่พอใจ ถกเถียง โต้ตอบในห้องประชุมกันอย่างมาก กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่าสิบนายต้องเข้ามาดูแลความเรียบร้อยจนสุดท้ายก็สามารถดำเนินขั้นตอนต่อไปได้

นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ตัวเลข 3 หลัก และสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก ต้องเข้าใจว่ามีผู้เกี่ยวข้องสูงมาก คนซื้อต้องได้ราคาที่ 80 บาท ส่วนคนขายต้องการสลากจำนวนมาก ต้องการกำไรสูงสุด แล้วก็กลัวว่าหากออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 ตัว จะมาทำลายอาชีพ บางกลุ่มก็กลัวการมอมเมาสังคม สวนทางกับอีกกลุ่มที่มองว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะมาช่วยดึงเงินจากหวยใต้ดินเข้ามาได้ ดังนั้นจึงต้องรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย

ทั้งนี้ยืนยันว่าจุดประสงค์หลักของการออกสลากตัวเลข 3 หลักไม่ได้เข้าไปแข่งกับหวยใต้ดิน แต่เป็นผลพลอยได้ที่จะดึงเงินเข้ามา จึงตั้งราคาสลาก 3 หลักไว้ที่ 50 บาท เพื่อใกล้เคียงกับหวยใต้ดิน และผลตอบแทนแตกต่างจาก สลาก 6 หลักแบบเดิมที่สูงกว่า แต่ก็ไม่ขายราคาถูกจนเข้าถึงง่ายแบบใบละ 10-20 บาท จนเป็นการมอมเมา

จากการรับฟังความเห็นทั่วประเทศ ภาพรวมยังไม่มีการต่อต้านสลากตัวเลข 3 หลัก เพียงแค่กังวลเรื่องคนขายหลุดออกจากระบบ โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือประชาชนต้องได้ซื้อสลากในราคา 80 บาท แล้วผลิตภัณฑ์ใหม่คนขายเองก็ไม่ต้องลงเงินก่อนเพื่อมานำไปขาย ทั้งยังได้ส่วนแบ่งทันทีในทุกวัน จึงเชื่อว่าน่าจะเดินหน้าต่อไปได้ เพราะที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับที่ดีมาก

สลากแบบเลข 3 หลักจะมีการตั้งอัตราการจ่ายจูงใจ ในกรณีเลขที่มีคนซื้อมาก ๆ เงินรางวัลก็ไม่ได้ต่ำจนเกินไป อาจพิจารณาอั้นจำนวนผู้ซื้อด้วยอัตราจูงใจ เช่น ในกรณีขายสลากใบละ 50 บาท ก็ไม่ควรได้เงินรางวัล ต่ำกว่า 50 บาท รวมทั้งยังมีแจ็กพ็อต 1% ขณะที่ข้อกังวลว่า จะเลือกผู้ค้าอย่างไร มี 2 แนวทางที่จะต้องไปตกผลึกก่อน คือ ให้สิทธิรายใหม่เลย หรือ ให้ทั้งคนเก่าและคนใหม่

ทั้งนี้ จากเปิดรับฟังความเห็นทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว สำนักงานจะนำข้อมูลสรุป เสนอคณะกรรมการผลิตภัณฑ์ใหม่แล้วเสนอคณะกรรมการสลากในเดือนก.ย.2565 จากนั้นนำเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณา เมื่อเห็นชอบจึงนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) หากทุกอย่างได้รับการเห็นชอบตามแผนคาดว่าจะได้เห็นสลากผลิตภัณฑ์ใหม่ในครึ่งแรกของต้นปี 2566

หลังจากนี้สำนักงานสลากฯ จะรวบรวมความคิดเห็น รวมทั้งผลการศึกษาผลกระทบทางสังคมในทุกมิติ ตลอดจนมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณานำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า กรณีของสลากดิจิทัล ผ่านแอพพลิเคชันเป๋าตัง ที่จะเพิ่มจำนวนเป็น 10 ล้านฉบับ ตั้งแต่งวดวันที่ 1 ก.ย.2565 หลังจากนี้จะคงยอดจำนวน 10 ล้านฉบับไว้เป็นเวลา 2-3 งวด ในกรณีที่ไม่สามารถขายได้หมดอย่างรวดเร็ว เพื่อดูผลตอบรับของประชาชนว่าจะเป็นอย่างไร ป้องกันสลากเหลือขายในระบบจนกระทบกับผู้ซื้อ

นอกจากนี้ ในวันที่ 10 ส.ค. สำนักงานสลากจะมีการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายผ่านระบบซื้อ จอง ล่วงหน้า ด้วยวิธีการสุ่มคัดเลือก (Random) รวม 7 หมื่นคน จากผู้ผ่านการคัดกรอง 3 แสนราย ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยหลักจากได้รายชื่อทั้งหมดแล้ว จะเสนอเข้าบอร์ด รับรองในวันที่ 11 ส.ค. และเริ่มใช้สิทธิซื้อ-จอง ได้ตั้งแต่งวดวันที่ 16 ก.ย. เป็นต้นไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน