สศช. หวั่นการเมืองไม่แน่นอนทำนโยบายเศรษฐกิจสำคัญปรับเปลี่ยน-ห่วงเศรษฐกิจโลกปีหน้าถดถอย

สศช. ห่วงการเมือง – นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ห่วงเศรษฐกิจคือในเรื่องของเศรษฐกิจโลกในปี 2566 ที่จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย (Global Recession) ซึ่งไทยจะได้รับผลกระทบและยังจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นซึ่งก็ต้องจับตาว่านโยบายต่างๆ จะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่

เนื่องจากขณะนี้นโยบายทางด้านเศรษฐกิจที่มีการเดินหน้าไปในหลายเรื่องได้แก่นโยบาย EV นโยบาย LTR ที่เป็นนโยบายที่ช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ในระยะยาวหากการเมืองเปลี่ยนแปลงก็ต้องติดตามดูว่านโยบายต่างๆ เหล่านี้จะเดินหน้าต่อไปหรือไม่

ส่วนกรณีที่ ธนาคาร เจพี มอร์แกน อินเวสต์เมนท์ แบงก์ ในประเทศสิงคโปร์ ได้เสนองานวิจัยว่าประเทศไทยและญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจอ่อนมากที่สุดสองชาติในเอเชีย ในกรณีดังกล่าวยืนยันว่า เศรษฐกิจไทยไม่ได้อ่อนแอ แต่มุมมองที่มองเช่นนั้นอาจเป็นเพราะในช่วงที่ผ่านมาในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โครงสร้างเศรษฐกิจของไทยพึ่งพาภาคท่องเที่ยว และมีข้อจำกัดของตลาดที่ยังแคบอยู่

เมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงแล้วเศรษฐกิจของไทยมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นนอกจากนั้นยังมีแนวโน้มที่ดีของการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ที่เข้ามาในประเทศเห็นได้จากการเข้ามาลงทุนของ BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รายใหญ่จากประเทศจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ที่ถือว่าเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก ขณะที่เร็วๆ นี้ จะมีการเข้ามาลงทุนขนาดใหญ่ของบริษัทดิจิทัลระดับโลก ซึ่งแนวโน้มการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในลักษณะนี้จะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า

จากนโยบายที่รัฐบาลไทยได้มีการเตรียมพร้อมไว้หลายเรื่องเพื่อรองรับการลงทุนรวมถึงนโยบายการสนับสนุนให้คนต่างชาติที่มีความสามารถและรายได้สูงเข้ามาอยู่ในประเทศไทย หรือมาตรการ “LTR” ซึ่งทำให้มีรายได้ส่วนนี้จากต่างชาติเข้ามาเพิ่มเติมและเป็นรายได้ที่แน่นอนมากกว่ารายได้จากการท่องเที่ยวในระยะยาว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน