นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยหลังลงนามความร่วมมือโครงการ “จุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพารา พัฒนาเกษตรกรไทย” กับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ว่า การร่วมมือครั้งนี้เพื่อสนับสนุนใช้ยางภายในประเทศตามนโยบายรัฐบาล โดยปตท. จะเปิดพื้นที่ในสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ ให้เป็นศูนย์กลางของชุมชนได้นำสินค้าแปรรูปจากยางพาราเข้ามาจำหน่ายโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายตลอดปี 2561 ทั้งสิ้น 14 แห่ง โดยจะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนก.พ.เป็นต้นไป เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้เกษตรกรชาวสวนยาง และสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางอีกช่องทางหนึ่ง

สำหรับราคายางพารา ปัจจุบันปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา โดย ณ วันที่ 30 ม.ค. 2561 ราคายางแผ่นดิบรมควันชั้น 3 อยู่ที่ 48-50 บาทต่อกิโลกรัม (ก.ก.) ซึ่งทั้งหมดเกิดจากนโยบายของภาครัฐที่ออกมาทำให้ปริมาณยางพาราในตลาดลดลง อาทิ โครงการสนับสนุนเงินหมุนเวียนแก่สถาบันการเกษตรต่างๆ ลดการส่งออกยาง เป็นต้น นอกจากนี้ปัจจุบันหลายจังหวัดเริ่มปิดกรีดแล้ว จึงทำให้ปริมาณยางพาราในตลาดลดลงอีก ซึ่งเป็นผลดีเพราะจะทำให้ราคายางสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำที่รัฐบาลออกมา ต้องใช้เวลาในการดำเนินงาน โดยเฉพาะการส่งเสริมการใช้ยางในประเทศ ซึ่งปัจจุบันยังมีการใช้ยางน้อยเพียงแค่ 10% หรือ 400,000 ตัน กยท.จึงตั้งเป้าไว้ว่า 5 ปี จะส่งเสริมการใช้ยางในประเทศให้ถึง 30% ส่วนยางพาราในสต็อกรัฐบาลที่เก็บไว้กว่า 100,000 กว่าตัน ปัจจุบันกยท.ชะลอการปล่อยยางไว้ตามคำสั่งของรัฐบาลที่ไม่ต้องการลดปริมาณยางในตลาดเพิ่มขึ้น และขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงส่งเจ้าหน้าที่ของกยท. เข้าไปตรวจสอบคุณภาพของยางในโกดังตามจังหวัดต่างๆ

“ตอนนี้กำลังเจราจาซื้อขายยางจากหลายประเทศ อาทิ ประเทศจีน ซึ่งมีความสนในจยางแท่งหรือยางแผ่นรมควันชั้น 3 รวมถึงประเทศฝรั่งเศสที่ต้องการมาเจรจากับไทยในอีก 2-3 วันข้างหน้า อย่างไรก็ตามในอนาคตจะไทยจะส่งออกยางในรูปแบบผลิตภัณฑ์มากขึ้นกว่า 90% อาทิ ยางล้อ หมอนยางพารา ถุงมือยาง เป็นต้น จึงอยากให้เกษตรกรพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ยางให้ได้มาตรฐานสากล”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน