คลังหั่นจีดีพีปี’65 เหลือ 3.4% หลังการลงทุนภาคเอกชนชะลอ ลุ้นส่งออก-ท่องเที่ยว เรือธงเข็นเศรษฐกิจ ประเมินต่างชาติแห่เข้าไทยทะลุ 10.2 ล้านคน

คลังหั่นจีดีพีปี’65 – นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า กระทรวงการคลัง ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ลงเหลือ 3.4% โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 2.9-3.9% จากคาดการณ์เดิมที่ 3.5% เนื่องจากการลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณชะลอตัวลงบ้าง แต่ก็ยังมีปัจจัยหนุนอื่นๆ ที่ช่วยให้เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้

โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย รัฐบาลได้มีการผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศ ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5.7 ล้านคน และคาดว่าทั้งปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ อยู่ที่ 10.2 ล้านคน สูงขึ้นกว่าคาดการณ์เดิมที่ 8 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลดีให้รายได้ของแรงงานและภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ รายได้เกษตรกรที่แท้จริง ซึ่งเป็นฐานการบริโภคภาคเอกชนที่สำคัญ ในช่วง 9 เดือนแรกขยายตัวได้สูงถึง 7.4% ประกอบกับรัฐบาลได้ดำเนินมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศหลายมาตรการ ทำให้คาดว่าการบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวได้ 7.9% ต่อปี

ขณะที่การส่งออกในปีนี้ ยังคาดว่าจะขยายตัวได้ดีที่ระดับ 8.1% สูงขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ 7.7% จากความต้องการสินค้าอาหารที่คาดว่าจะยังเติบโตได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี และปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ที่เริ่มคลี่คลายลง

ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 6.2% ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 6.5% จากสถานการณ์ราคาพลังงานและปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ทยอยคลี่คลาย

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวได้ที่ระดับ 3.8% มีช่วงคาดการณ์ที่ 2.8-4.8% โดยได้แรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว คาดว่าในปีหน้าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 21.5 ล้านคน ขยายตัว 109% ต่อปี ส่งผลให้รายได้จากภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องเพิ่มสูงขึ้น สนับสนุนให้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ 3.2% ต่อปี

ส่วนการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวได้ที่ 2.5% ต่อปี การลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัวที่ระดับ 3.7% ต่อปี ขณะที่คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ระดับ 2.9% ปรับลดลงตามราคาพลังงาน และเข้าสู่กรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ 1-3%








Advertisement

“ปี 2566 การท่องเที่ยวยังเป็นเรือธงที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่วนการส่งออกคาดว่าจะชะลอตัวลง จากอุปสงค์ในตลาดโลกและเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัวลง แต่มองว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะโต 3.7% ส่วนเรื่องเงินเฟ้อก็จะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย ก็จะลดปัญหาเรื่องค่าครองชีพสูงได้มากขึ้น” นายพรชัย กล่าว

นายพรชัย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการนำ มาตรการช้อปดีมีคืน มาตรการคนละครึ่ง ระยะที่ 6 มาดำเนินการอีกครั้ง ว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายปลายปี เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน โดยส่วนใหญ่เป็นมาตรการกระตุ้นการบริโภคที่เคยทำมาแล้ว แต่ทั้งหมดยังอยู่ระหว่างการหารือกับปลัดกระทรวงการคลังและรมว.คลัง โดยต้องดูถึงความเหมาะสม ขนาดและระยะเวลา

อย่างไรก็ดี ในส่วนของการจัดอันดับขีดความสามารถการแข่งขันไทยในปีนี้ ที่ลดลงมาอยู่ที่อันดับ 33 จากเดิมที่ 28 ลดลง 5 อันดับนั้น ขอชี้แจงว่า สอดคล้องกับกลุ่มประเทศอาเซียนที่มีการปรับลดอันดับลงเช่นกัน อาทิ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่ลดลงถึง 7 อันดับ โดยส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 แต่ในส่วนของไทยยังมีปัจจัยบวกอย่างสาธารณูปโภคพื้นฐานปรับตัวดีขึ้น จากการพัฒนารถไฟที่ทั่วถึง รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดีขึ้น สามารถตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจ เพิ่มการเข้าถึงการบริการภาครัฐผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ และการกระจายรายได้มีทิศทางที่ดีขึ้น ดีขึ้น 26 อันดับมาอยู่อันดับที่ 3

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน