นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันที่ 5 พ.ย. 2565 เป็นวันที่ 2 ของ “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 1 ณ Hall 5 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งมีประชาชนและผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมงานจำนวนมากในระยะเวลา 2 วันที่ผ่านมา
งานมหกรรมในวันแรก เมื่อวันที่ 4 พ.ย. มีผู้สนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก โดยมีจำนวนรายการที่ขอรับบริการ จำนวนกว่า 7,000 รายการ ประกอบด้วย 1. การขอแก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่เดิม โดยการผ่อนปรนการผ่อนชำระ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือการปรับงวดการผ่อนชำระ จำนวนกว่า 600 รายการ
2. การขอสินเชื่อใหม่หรือสินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อเสริมสภาพคล่องและสร้างรายได้เพิ่ม จำนวนกว่า 500 รายการ 3. การขอรับคำปรึกษาด้านการเงินและแนวทางในการประกอบอาชีพ จำนวนกว่า 5,200 รายการ
4. กิจกรรมอื่นๆ เช่น ผลิตภัณฑ์เงินฝากเพื่อส่งเสริมการออม การตรวจข้อมูลเครดิต การขาย NPA ของทั้งสถาบันการเงินและบริษัทเอกชน เป็นต้น จำนวนกว่า 700 รายการ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเสวนาให้ความรู้โดยวิทยากรมืออาชีพและการอบรมสร้างงานสร้างอาชีพ ตลอดระยะเวลา 3 วันของมหกรรม
งานมหกรรมในวันที่ 2 นั้น ยังคงมีประชาชนเข้าร่วมงานอย่างหนาแน่นกว่า 4,500 คน และในระหว่างงานมหกรรมวันที่ 2 นั้น นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ให้เกียรติเดินทางมาร่วมชมงาน พูดคุย รวมทั้งให้คำปรึกษากับประชาชนและผู้ประกอบการในงานอีกด้วย
สำหรับงานมหกรรมในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้าย (วันที่ 6 พ.ย.) กิจกรรมต่างๆ ยังคงครบถ้วนเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็น ทั้งการแก้ไขหนี้ การให้สินเชื่อเพิ่มเติม การให้คำปรึกษาทางการเงิน การอบรมอาชีพ รวมทั้งกิจกรรมเสวนาบนเวทีเกี่ยวกับเคล็ดลับในการแก้หนี้และการค้ำประกันการส่งออกสำหรับผู้ประกอบธุรกิจมือใหม่ทุกท่าน
โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน ครั้งที่ 1 มีกำหนดจัดงานเป็นระยะเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 4-6 พ.ย. ดังนั้น ประชาชนหรือผู้ประกอบการที่สนใจยังสามารถเข้าร่วมงานมหกรรมได้อีก 1 วัน ในวันอาทิตย์ที่ 6 พ.ย.
โดยสามารถเข้าร่วมงานได้ ณ Hall 5 อิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือลงทะเบียนล่วงหน้าได้ทางเว็บไซต์ https://ln15.gsb.or.th/WEB-DEBT/Page/Consent.aspx
