"จุรินทร์" อ้อนสหรัฐปลดไทยพ้นบัญชีประเทศที่ต้องจับตา ด้านทรัพย์สินทางปัญญา

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เผยผลการหารือทวิภาคีร่วมกับ ผู้แทนการค้า สหรัฐอเมริกา อ้อนปลดไทยพ้นบัญชีด้านทรัพย์สินทางปัญญา

วันที่ 18 พ.ย. 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการหารือทวิภาคีร่วมกับ นางแคทเธอรีน ไท ผู้แทนการค้า สหรัฐอเมริกา (ยูเอสทีอาร์) วันนี้ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่าในเดือนเม.ย.2566 ยูเอสทีอาร์จะมีการพิจารณาทบทวนสถานะไทย ด้านการให้ความคุ้มครองด้านทรัพย์สินทางปัญญา โดยไทยขอให้สหรัฐฯพิจารณาปลดไทยออกจากบัญชี WL หรือบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง

เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ทรัพย์สินทางปัญญาของไทย มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมากซึ่งสหรัฐฯรับทราบ ขณะนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญา กำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับยูเอสทีอาร์ ขณะที่สหรัฐก็ได้รับข้อเสนอไทยไปพิจารณา โดยขณะนี้มีประเทศที่อยู่ในบัญชีเดียวกับไทยรวม 19 ประเทศ

หากไทยหลุดพ้นจากบัญชีดังกล่าวจะทำให้มีภาพลักษณ์ทางการค้า ทางเศรษฐกิจ การลงทุนของไทยดีขึ้น นอกจากนี้ยังเห็นชอบร่วมกันที่จะจัดให้มีการจัดการประชุมกรอบความตกลงการค้าและการลงทุนไทย-สหรัฐฯ (Trade and Investment Framework Agreement: TIFA) หลังจากว่างเว้นจากปัญหาโควิด ซึ่งขณะนี้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กำหนดหัวข้อและวันเวลาในการหารือซึ่งสหรัฐฯจะเป็นเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า สหรัฐได้หยิบยกประเด็นขึ้นมาหารือ ประกอบด้วย ชื่นชมว่าไทยทำหน้าที่เจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเอเปคได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งครั้งหน้าสหรัฐอเมริกาจะรับไม้ต่อ เป็นเจ้าภาพการประชุม และได้หารือถึงกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (Indo-Pacific Economic Framework: IPEF) ประกอบด้วยความร่วมมือ 4 ด้าน1.การค้า 2.ห่วงโซ่อุปทานหรือ Supply Chain 3.พลังงานสะอาด 4.ปราศจากการทุจริต เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่เป็นธรรมให้เกิดขึ้น โดยไทยได้ย้ำจุดยืนที่จะเข้าร่วม ซึ่งนางแคทเธอรีนได้ขอบคุณไทย

สำหรับรายละเอียดด้านการค้า กระทรวงพาณิชย์จะเป็นกระทรวงหลักในการรับผิดชอบ อาจจะมีเรื่องสิ่งแวดล้อม แรงงานและเรื่องใหม่ที่จะเป็นประเด็นหารือต่อไป เช่น ดิจิทัลเทรด การอำนวยความสะดวกทางการค้าหรือความร่วมมือด้านเทคโนโลยีทางการค้าและความร่วมมือด้านเทคนิคต่างๆ ด้านการค้าและเศรษฐกิจเป็นต้น โดยประเทศไทยจะร่วมหารือต่อไปในรายละเอียด