นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยในงานสัมมนาหัวข้อ “ส่องส่งออก 2566 ทรงหรือทรุด” ว่า การส่งออกปี 2565 คาดว่าจะเติบโต 7-8% ส่วนปี 2566 จะเติบโตเพียง 2-3% หรือคิดเป็นมูลค่า 303,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีระดับความเสี่ยงเพิ่มเป็นเสี่ยงสูง จากปีนี้อยู่ในระดับเสี่ยงปานกลาง จากปัญหาเงินเฟ้อที่ยังสูง ค่าเงินบาท ที่มีความผันผวนมาก ราคาสินค้าและพลังงานที่ยังแพงต่อเนื่อง

ขณะที่สงครามรัสเซีย-ยูเครน ไม่คลี่คลาย ยังมีปัญหาขาดแคลนชิปต่อเนื่อง ความกังวลการระบาด โควิด-19 ระลอกใหม่กลับมา รวมทั้งปีหน้าประเทศต่างๆ จะนำกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม และแรงงาน มาใช้ในการกีดกันทางการค้ามากขึ้นด้วย

“ไตรมาสที่ 4 ปีนี้ คาดว่าการส่งออกไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตติดลบ 3% เป็นครั้งแรก เริ่มชะลอตัวลงอย่างชัดเจนจากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย เห็นจากดัชนีภาคการผลิตของประเทศคู่ค้าหลักในเดือนต.ค. ทั้งตลาดยุโรป และสหรัฐ อยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ส่วนการส่งออกไทยปีหน้ายืนยันว่ายังไม่ทรุด ยังโตได้ 2-3% แต่โตแบบหน่วงๆ เพราะมีลมต้านจากปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอ”

นายชาญชัย กล่าวว่า การส่งออกไทยปี 2566 ยังมีโอกาส เนื่องจากเพราะแนวโน้ม ค่าระวางเรือ ปีหน้า จะปรับลดลง 37% ตามราคาน้ำมันที่ลดตามความต้องการใช้ที่หดตัวจากเศรษฐกิจโลกถดถอย ขณะที่ปัญหาขาดแคลนคอนเทนเนอร์เริ่มคลี่คลาย แต่ผู้ส่งออกจะต้องปรับปรุงสินค้าให้มีนวัตกรรมมากขึ้น เร่งเจาะตลาดเกิดใหม่ๆ และกลุ่ม BIMSTEC ใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอให้มากขึ้น รวมทั้งเร่งทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วย

น.ส.อานันท์ชนก สกนธวัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านแบบจำลองเศรษฐกิจ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวได้ 3-4% ฟื้นตัวต่อเนื่องจากปีนี้ จากการท่องเที่ยว การบริโภคและลงทุนเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้นมาก ส่วนเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงเพราะประเทศพัฒนาแล้วมีเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เงินเฟ้อโลกยังสูง โดยในเดือนต.ค. ประเทศโซนอยู่ที่ 10.6% สหรัฐอยู่ที่ 7.8% ทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย โดยคาดว่าสหรัฐอาจปรับขึ้นอีก 1-2 ครั้ง ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566

รวมทั้งอาจเกิดปัญหาวิกฤตพลังงานในอียู จากความขัดแย้งสงคราม ขณะที่จีนอาจจะฟื้นตัวช้าจากการระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งปัญหาหนี้สินในภาคอสังหาฯ ของจีน

ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันปีหน้าคาดว่าจะปรับลดลงเหลือ 85-95 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากเศรษฐกิจโลกหดตัว ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มอ่อนค่าลง 35.5-36.5 บาท/เหรียญสหรัฐ

“ปีหน้าเศรษฐกิจโลกชะลอ สภาพัฒน์ มองว่าการส่งออกปี 2566 จะเติบโตได้ 1% ลดลงจากปีนี้ที่คาดว่าจะโต 7.5% ภายใต้จีดีพีที่ 3-4% อัตราเงินเฟ้อ 2.5-3.5% โดยปีหน้าการลงทุนภาครัฐจะปรับตัว ดีขึ้น”








Advertisement

นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) กล่าวว่า คาดว่าการส่งออกไทยปี 2566 จะเติบโต 2% เนื่องจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดลงประมาณการณ์เศรษฐกิจโลกเหลือ 2.7% ถือว่าอ่อนแอที่สุดในรอบ 21 ปี

แม้เศรษฐกิจโลกจะชะลอ แต่การส่งออกไทยยังโตได้ เพราะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอ เป็นผลมาจากการใช้มาตรการบริหารนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางของแต่ละประเทศ เศรษฐกิจโลกไม่ได้ชะลอตัวจากปัญหาวิกฤต นอกจากนี้ เศรษฐกิจของเอเชีย โดยเฉพาะ อินเดีย และอาเซียน เช่น กัมพูชา เวียดนาม ยังเติบโตแบบโดดเด่น ซึ่งยังเป็นโอกาสส่งออกของไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน