หมูเถื่อนทะลัก! ลอบนำเข้าจากบราซิล 30 ตัน ด่านกักกันสัตว์สงขลา ฝังทำลายซาก พ่นยาฆ่าเชื้อกันโรคระบาด ดำเนินคดีผู้ต้องหา 5 ราย

วันที่ 2 มี.ค. 2566 น.สพ.สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากด่านกักกันสัตว์สงขลา ว่า หลังจากฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 ร่วมกับด่านศุลกากรสะเดา หน่วยสืบสวนปราบปรามสงขลา และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 จับกุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางเป็นซากสุกรแช่แข็งลักลอบนำเข้า 30 ตัน หรือ 30,000 กิโลกรัม ซึ่งมีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศ (บราซิล)

เนื่องจากไม่พบเอกสารเกี่ยวกับการผ่านพิธีการศุลกากร รวมทั้งเอกสารใบอนุญาตนำเข้า หรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติพิธีการศุลกากร ด่านศุลกากรสะเดาจึงส่งมอบซากสุกรแช่แข็งของกลางทั้งหมดให้กับด่านกักกันสัตว์สงขลา เพื่อจัดการทำลายซาก หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนทางกฎหมายน.สพ.สมชวน กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา ด่านกักกันสัตว์สงขลา ร่วมกับปศุสัตว์เขต 9 ปศุสัตว์จังหวัดสงขลา และศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์เทพา ทำการฝังทำลายซากสุกรแช่แข็งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมปศุสัตว์กับกรมศุลกากร เรื่อง การปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีที่มีการจับกุมดำเนินคดีลักลอบนำสัตว์หรือซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรโดยนำซากสุกรไปทำลายตามระเบียบของกรมปศุสัตว์ด้วยการฝังกลบในระดับความลึกไม่ต่ำกว่า 50 เซนติเมตร แล้วพ่นยาฆ่าเชื้อ และฝังกลบทับอีกชั้นในระดับไม่ต่ำกว่า 50 เซนติเมตร เพื่อความปลอดภัย และป้องกันโรคระบาดที่อาจจะปะปนในสัตว์หรือซากสัตว์ที่นำเข้าโดยผิดกฎหมาย

สำหรับเนื้อสุกรที่ลักลอบนำเข้านั้น มีแหล่งผลิตต้นทางมาจากประเทศบราซิล ยังไม่ได้ผ่านการตรวจรับรองโดยกรมปศุสัตว์ ซึ่งเสี่ยงต่อการปนเปื้อน ทั้งจากสารเคมี และเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน