นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในปี 2560 มีเรือสำราญขนาดใหญ่ (เรือครุยส์) เข้ามาในประเทศไทย จำนวน 393 ลำ มีนักท่องเที่ยวที่มากับเรือมากว่า 368,000 คน มีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 8% โดยในพื้นที่ อ.เกาะสมุย มีอัตราการท่องเที่ยวทางน้ำสูงขึ้น คิดเป็น 19%

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่กรมเจ้าท่าดำเนินการศึกษาความเหมาะสมของการพัฒนาท่าเทียบเรือเพื่อรองรับเรือครุยส์ พบว่าในพื้นที่ จ.กระบี่ และ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีความเหมาะสมในการก่อสร้างท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ และจะสามารถเพิ่มอัตราการท่องเที่ยวทางน้ำเพิ่มขึ้นได้อีกเป็น 100% ซึ่งในขณะนี้โครงการดังกล่าวอยู่ในระหว่างการศึกษาความเหมาะสมของรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership – PPP)

นอกจากนี้ กรมเจ้าท่าจะดำเนินการกำหนดหลักเกณฑ์และมาตรฐานการใช้เรือ Tender สำหรับรับ-ส่ง ผู้โดยสารจากเรือสำราญขึ้นสู่ฝั่ง ควบคู่กับการจัดระเบียบและยกระดับคุณภาพการให้บริการของเรือท้องถิ่นให้สามารถให้บริการผู้โดยสารได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการพัฒนาท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวในแม่น้ำเจ้าพระยา กรมเจ้าท่ามีแผนในการปรับปรุงท่าเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาและลำคลอง สาขา ทั้งในส่วนของท่าเรือรัฐและท่าเรือเอกชน เพื่อส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวทางน้ำ เพิ่มความสะดวกในเรื่องของการเชื่อมต่อหลังท่า ทั้งระบบขนส่งสาธารณะทางบกและทางราง นอกจากนี้ กรมเจ้าท่ายังมีแผนในการนำนวัตกรรมมาใช้กับเรือ เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารและเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมทางน้ำ

“กรมเจ้าท่า จะร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มการเติบโตในอัตราที่สูงขึ้น รวมทั้งการสนับสนุนผู้ประกอบการให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวกับประเทศอื่นๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้รับความสะดวกสบาย มีความเชื่อมั่น และประทับใจ อันจะเป็นการพัฒนาให้เกิดความอย่างยั่งยืน” นายจิรุตม์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน