น.ส.วรรณสิริ โมรากุล อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเพื่อการประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวในการให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมพระบรมมหาราชวัง ว่า ที่ประชุมได้กำหนดจุดรับส่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและพื้นที่จอดรถบัส โดยกำหนดจุดจอดรับส่งดังนนี้ จุดที่ 1 มาทางรถ จอดส่ง-รับ ทีโรงแรมรอยัล รัตนโกสินทร์ จุดที่2.มาทางรถ จอดส่งทีโรงแรมรอยัล รัตนโกสินทร์ กลับทางเรือที่ท่าช้าง ระหว่างนั้นให้รถบัสขับไปจอดที่บริเวณเชิงสะพานพระราม 8, บริเวณสายใต้เก่า, บริเวณวัดดุสิต และบริเวณร้านอาหารของเอกชน เป็นต้น

ส่วนจุดที่ 3 มาทางเรือ จอดส่งและรับ โดยลงเรือที่เอเชียทีค(เรือจุได้ 400 คน) มาขึ้นที่ท่ามหาราช นักท่องเที่ยวมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมคนละ 130 บาท ทั้งนี้ สำหรับรถกรุ๊ปทัวร์ขนาดเล็กอย่างรถตู้ สามารถส่ง-รับนักท่องเที่ยวได้ที่สะพานช้างโรงสีได้ เช่นเดียวกับรถรับส่งคนไทยที่มาร่วมถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ที่กำหนดให้จอดส่ง-รับเดียวกัน

น.ส.วรณสิริ กล่าวอีกว่า สำหรับช่วงเวลาการเปิดพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ กำหนดตั้งแต่เวลา08.30 – 15.30 น. เข้าและออกทางประตูวิเศษไชยศรี สำหรับคนไทยที่เข้าถวายบังคมพระบรมศพ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.โดยเข้าทางประตูมณีนพรัตน์ และตั้งแต่เวลา 16.00-21.000 น. เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี สำหรับประตูออกให้ใช้ประตูวิมานเทเวศร์ และประตูเทวาภิรมย์ นอกจากนี้ กรมยังร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว จัดเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารภาษาต่างประเทศได้ ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน วันละ 6 คน ประจำอยู่ ณ ป้อมยามกระจกสีขาว และเต็นท์ช่วยเหลือ เยื้องบริเวณหน้าประตูวิเศษไชยศรีตั้งแต่เวลา08.30-16.30 น. เพื่อปฏิบัติหน้าที่ให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวกรณีพลัดหลงจากกรุ๊ปทัวร์

%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%87

อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวอีกว่านอกจากนี้ตั้งศูนย์วอร์รูม ประจำที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมีตัวแทนจาก 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย ผู้แทนสำนักงานปลัดกระทรวงฯ ผู้แทนกรมการท่องเที่ยว ผู้แทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ผู้แทนกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) หน่วยงานละ 1 คน เพื่อให้ข้อมูลข่าวสาร แก้ปัญหารับรายงานและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่1 พฤศจิกายนนี้ โดยสามารถโทรศัพท์ขอรับความช่วยเหลือที่เบอร์ 02 283 1555

“กรมยังได้ขอความร่วมมือไปยังสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยวหรือแอตต้า เพื่อให้แจ้งข้อมูลล่วงหน้าว่า แต่ละวันจะมีรถบัสพานักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมได้วันละเท่าใด ให้นักท่องเที่ยวเขียนชื่อบริษัททัวร์ มัคคุเทศก์(ไกด์)พร้อมเบอร์โทร เพื่อใช้กรณีที่นักท่องเที่ยวพลัดหลง ขอความร่วมมือบริษัททัวร์จัดสลับเวลาพานักท่องเที่ยวเข้าวัดพระแก้วเพื่อลดความแออัด ตลอดจนช่วยกำชับนักท่องเที่ยวไม่พกสัมภาระที่มากเกินไป ของมีคม เพื่อความสะดวก รวดเร็วต่อการตรวจค้น อย่างไรก็ตาม กรมได้คาดการณ์ว่าวันแรกที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าวัดพระแก้วจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาด้วยตัวเอง(เอฟไอที) ราว 1 พันคน ส่วนแอตต้า คาดว่านักท่องเที่ยวที่จะมากับบริษัททัวร์ 5 พันคน และคิดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในวันถัดไป และในวันเดียวกัน ทางกรมพร้อมสำนักพระราชวังจะประเมินว่านักท่องเที่ยวมาเข้าชมใช้เวลาเท่าใด เพื่อเป็นแนวทางในการจัดระเบียบนักท่องเที่ยวให้เยี่ยมชมเป็นรอบๆ และรอบละกี่คน ใช้เวลารอบละกี่นาที”นางสาววรรณสิริ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน