‘เจ้าท่า’ แจง เรือโคลงเคลงกลางเจ้าพระยา เป็นเรื่องธรรมชาติ มีโอกาสเกิดได้ เล็งกำหนดความเร็วใหม่ ป้องกันเหตุซ้ำ รับไม่มี กม.คุม ผู้โดยสารต้องใส่ชูชีพ

วันที่ 5 ก.ค.2566 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (ด้านปลอดภัย) กล่าวว่า จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง โพสต์คลิปเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นเหตุการณ์ขณะเรือโดยสารข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งกำลังอยู่กลางแม่น้ำเกิดการโคลงเคลง ท่ามกลางคลื่นที่เชี่ยวกราก ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องธรรมชาติของเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากมีเรือจำนวนมากในบริเวณนั้น ทั้งเรือด่วนเจ้าพระยา เรือไฟฟ้า เรือข้ามฟาก เรือลากจูง เรือดินเนอร์ครุยส์ เรือยอร์ชส่วนตัว ซึ่งเป็นการใช้แม่น้ำร่วมกัน เมื่อมีเรือมากจึงเกิดคลื่นจากเรือวิ่ง แต่ที่ผ่านมายืนยันว่า มีการกำหนดความเร็วเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่แล้ว โดยจะต้องไม่เกิน 15 นอต

นายภูริพัฒน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ตามปกติเรือข้ามฟากจะวิ่งขวางคลื่น เมื่อตกร่องคลื่นจึงเกิดการโคลงเคลง ซึ่งตามธรรมชาติเรือจะสามารถเอียงได้ถึง 45 องศาฯ และภายในเรือจะต้องผนึกน้ำที่ทำให้เรือลอยได้ และเรือทุกลำจะมีการคำนวณเรื่องการทรงตัวเรือว่าหากเอียงเกิน 45 องศาฯ ต้องไม่คว่ำหรือจม พร้อมยอมรับว่ายังไม่มีกฎหมายควบคุมว่า ผู้โดยสารจะต้องสวมชูชีพ แต่กำหนดว่าในเรือจะต้องมีอุปกรณ์ป้องกัน อาทิ ห่วงยาง และเสื้อชูชีพ จะต้องมีเพียงพอให้สามารถหยิบฉวยได้เมื่อเกิดเหตุ

“ที่ผ่านมากรมฯ ได้มีการติดตามการใช้ความเร็วในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่แล้ว และขณะนี้เรือบางลำได้มีการติดตั้งจีพีเอส ซึ่งหากมีการใช้ความเร็วจะสั่งหยุดเดินเรือทันที ขณะเดียวกัน ในอนาคตอาจจะต้องมีการพิจารณาเรื่องความเร็วเรือในบางพื้นที่ที่มีเรือใช้งานเป็นจำนวนมากว่า และอาจกำหนดปรับลดความเร็ว เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และประชาชนที่สัญจรทางเรือต่อไป” นายภูริพัฒน์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน