กระทรวงพาณิชย์ ชี้ ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์จีนพ่นพิษ ฉุด ท่องเที่ยว-ส่งออก ไทยทรุด แนะนำผู้ประกอบการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

วันที่ 23 ส.ค.2566 นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผอ.สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณี บริษัท Evergrande ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์จีน ซึ่งมีโครงการคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 4 ของเศรษฐกิจจีน และเป็นธุรกิจที่มีหนี้มากที่สุดในโลก ได้ยื่นล้มละลายในเดือนส.ค.2566 ที่ผ่านมา ว่า คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ทำให้ภาคการท่องเที่ยวไทยเติบโตชะลอลง เนื่องจากชาวจีนเริ่มลดการบริโภคและการใช้จ่ายเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ

กระทรวงพาณิชย์ ชี้ ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์จีนพ่นพิษ ฉุด ท่องเที่ยว-ส่งออก ไทยทรุด

กระทรวงพาณิชย์ ชี้ ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์จีนพ่นพิษ ฉุด ท่องเที่ยว-ส่งออก ไทยทรุด

นายพูนพงษ์ กล่าวต่อว่า ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนคิดเป็นสัดส่วน 28% ของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมดที่เข้ามาในประเทศไทย โดยก่อนเกิดโควิด-19 ในปี 2562 เดินทางเข้าไทยจำนวน 11.1 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 5.3 แสนล้านบาท แต่ในช่วง6เดือนแรกปี 2566 (ม.ค.-มิ.ย.) มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพียง 1.4 ล้านคนเท่านั้น

นายพูนพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยด้วย เนื่องจากกำลังซื้อชาวจีนลดลงจากเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีสัดส่วนสำคัญต่อ GDP ของจีนค่อนข้างมาก และยังเป็นแหล่งจ้างงานขนาดใหญ่ กว่า 62 ล้านตำแหน่ง ซึ่งแรงงานอาจมีแนวโน้มถูกเลิกจ้างงาน ทำให้ชาวจีนเริ่มปรับลดการบริโภคและนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็น

นายพูนพงษ์ กล่าวด้วยว่า ขณะที่ การส่งออกสินค้าวัตถุดิบจากไทยไปจีนจะได้รับผลกระทบเช่นกัน ได้แก่ เคมีภัณฑ์ ที่ใช้ในงานก่อสร้าง และเม็ดพลาสติก ซึ่งมีจีนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 มีสัดส่วน 18% และ 29% ตามลำดับ และยังเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออก Top 10 ของไทย ซึ่งครึ่งปีแรกของปี 2566 2สินค้าข้างต้นที่ส่งออกไปจีน หดตัว 20.9% และ 26.9% ตามลำดับ

นายพูนพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับสินค้าอื่นที่เกี่ยวข้องกับภาคการก่อสร้าง เช่น เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม เครื่องจักรกลที่ใช้ในการก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก คาดว่าได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย เนื่องจากจีนไม่ใช่ตลาดส่งออกหลัก และจะเกิดผลกระทบโดยอ้อมจากอิทธิพลด้านราคา

อาทิ เหล็กและเหล็กกล้า ทองแดงและของทำด้วยทองแดง เพราะจีนเป็นผู้บริโภคและผู้นำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ของโลก ทำให้ไทยในฐานะผู้ส่งออกอาจประสบปัญหาในเรื่องความผันผวนของราคา โดยเฉพาะเหล็กที่มีความอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างมากกว่าสินค้าอื่น ๆ

นายพูนพงษ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทยควรติดตามสถานการณ์ภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นภาคเศรษฐกิจที่มีอิทธิพลค่อนข้างมากต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องมายังเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและการค้าระหว่างประเทศ สำหรับภาคการค้า จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 และตลาดส่งออกอันดับ 2 ของไทย มีสัดส่วนประมาณ 12% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของไทย ดังนั้นเศรษฐกิจจีนย่อมมีผลกระทบสำคัญต่อการส่งออกสินค้าไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน