นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า หลังจากที่ไทยได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อย่างทางการ คือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แล้ว นั้น ส่งผลให้ความกังวลเกี่ยวกับเรื่องการเมืองภายในประเทศคลี่คลายลง และเชื่อว่าทุกภาคส่วน อาทิ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และภาคธุรกิจต่างๆ ก็ตอบรับผลเป็นอย่างดี โดยส่วนใหญ่แล้ว เราไม่ได้โฟกัสที่ตัวบุคคล แต่เน้นเรื่องความมั่นคงและความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบาย โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ซึ่งมองว่าแต่ละพรรคการเมืองต่างเน้นเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
“ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าทีมรัฐบาล หรือคณะรัฐมนตรีจะมีหน้าตาออกมาแบบไหน เนื่องจากตอนนี้ยังมีหลายโพลให้ติดตาม แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร ภาคเอกชนก็พร้อมให้ความรวมมือ รวมถึงในส่วนของสมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย จะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้ง เพื่อสรุปสาระสำคัญในการเสนอแผนให้รัฐบาลรับทราบ และช่วยเหลือ อาทิ เรื่องลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน สำหรับเครื่องบินไอพ่น จาก 4.72 บาทต่อลิตร เพื่อเป็นการลดต้นทุนให้กับอุตสาหกรรมการบิน และลดภาระค่าตั๋วโดยสารให้กับประชาชน ภายหลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่แล้วต่อไป”นายสันติสุข กล่าว
ทั้งนี้ สายการบินมีข้อเสนอเเนะถึงรัฐบาลใหม่ ในการผลักดันนโยบาย เพื่อฟื้นธุรกิจการท่องเที่ยวเเละการบินได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเศรษฐกิจในภาพรวม คือ 1.การสนับสนุนนโยบายและเเคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยต่อเนื่อง อาทิ การออกเแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ลดต้นทุนการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อกระจายเศรษฐกิจให้เติบโตทั่วภูมิภาค
2.การพิจารณายกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival) เป็นการชั่วคราว (ระยะเวลา 6 เดือน) ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน เพื่อกระตุ้นให้มีการเดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันมีค่าธรรมเนียม 2,000 บาทต่อคน และ 3.การขยายสิทธิการบิน การขนส่งอากาศไทย-อินเดีย ให้สามารถเพิ่มความถี่ในการขนส่งทางอากาศในตลาดเอเชียใต้ และ 6 เมืองหลักของอินเดีย ประกอบด้วย นิวเดลี มุมไบ บังกาลอร์ โกลกาตา เชนไน และไฮเดอราบาด ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของการท่องเที่ยวไทย
นายสันติสุข กล่าวว่า ส่วนเป้าหมายรายได้รวมของแอร์เอเชีย ในปี 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ 4.2 หมื่นล้านบาท จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อาทิ จีน ที่คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปีประมาณ 4-5 ล้านคน
ขณะที่ ภาพรวมผู้โดยสายทั้งของแอร์เอเชีย ในปี 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ 20 ล้านคน หลังครึ่งแรกของปี 2566 มีผู้โดยสาร 9.2 ล้านคนจากเป้าหมายดังกล่าว ส่วนในปี 2567 คาดว่าผู้โดยสารจะเติบโตเทียบเท่ากับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 หรืออยู่ที่ประมาณ 22 ล้านคน
