ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมประมงเร่งตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ปัญหาการประมง เพื่อร่วมพิจารณาปรับปรุงกฏหมายเกี่ยวกับประมง ที่สร้างผลกระทบกับชาวประมง จนไม่สามารถประกอบอาชีพ หรือเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพของชาวประมง ซึ่งคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐและเอกชนฯสามารถทำงานได้ทันทีหลัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎร
ทั้งนี้ การทำประมงของไทย จำเป็นต้องดำเนินการภายใต้กฏระเบียบของสหภาพยุโรป (อียู) ที่กำหนดการทำประมงต้องทำตามกฏการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (ไอยูยู) เนื่องจากประเทศไทย เป็นประเทศที่ส่งออก สินค้าประมงและอาหารทะเลไปยังอียูจำนวนมาก ทำให้เมื่อเม.ย. 2558 อียู ได้ให้ใบเหลืองกับประมงไทย จนรัฐบาลต้องออกกฏหมายประมง ปี 2558 ฉบับแก้ไข และ อียู ได้ปลดใบเหลืองให้การทำประมงไทย เมื่อม.ค. 2562 ถึงปัจจุบัน
“เพื่อแก้ปัญหาประมง โดยไม่ให้กระทบต่อกฏระเบียบของอียู เพราะไทยถือเป็นประเทศที่ส่งออกสินค้าประมงจำนวนมาก ดังนั้นคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐและเอกชน เพื่อแก้ปัญหาประมง จะช่วยกันปรับปรุงกฏ ระเบียบ ไม่ให้กระทบระเบียบปฏิบัติของ ไอยูยู แต่ทำให้ชาวประมงของไทยสามารถอยู่ได้ ประกอบอาชีพได้ ไม่ใช่มีกฏระเบียบที่มากเกินไปจนเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพของเกษตรกร”
นอกจากนี้ ยังสั่งให้กรมปศุสัตว์ตั้งคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น หมู ไก่ หรือเนื้อ เพื่อกวาดล้างการลักลอบนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ โดยต้องอาศัยความร่วมมือจาก กระทรวงการคลัง กรมศุลกากร และหน่วยงานเกี่ยวกับความมั่นคงต่างๆ เพื่อไม่ให้สินค้า ผิดกฏหมาย เข้ามาทำลายสินค้าเกษตรในประเทศ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน ต้องต้องดำเนินการ
