บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เบอร์ต้นของประเทศ เปิดเผยถึงความมุ่งมั่นเดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรของ “แสนสิริ” ครั้งใหญ่ ภายใต้การนำของ “นายอภิชาติ จูตระกูล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจ มุ่งทรานฟอร์มองค์กร ดึงคนรุ่นใหม่เสริมทัพบริหาร สร้างการเติบโตสู่ทศวรรษใหม่

พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริหาร บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้มีมติอนุมัติโครงสร้างองค์กรใหม่มีผลวันที่ 1 พ.ย. 2566 เป็นต้นไป โดยแบ่งโครงสร้างเป็น 4 สายงานหลัก ได้แก่ สายงานพัฒนาโครงการ ขับเคลื่อนโดยนายอุทัย อุทัยแสงสุข (สายงานเดิม) ดูแลฝ่ายพัฒนาโครงการแนวสูง แนวราบ การควบคุมคุณภาพ หน่วยลูกค้าสัมพันธ์ และบริหารสินทรัพย์

สายงานด้านกฏหมาย รับผิดชอบโดยนายนพพร บุญถนอม (สายงานเดิม) ดูแลฝ่ายกฎหมายรัฐกิจสัมพันธ์ และการสรรหาที่ดิน

สายงานด้านการตลาด ดูแลโดยนางสาวศรีอำไพ รัตนมยูร (แต่งตั้งใหม่) รับผิดชอบทางด้านการตลาดแบรนด์แคมเปญต่างๆ ภาพลักษณ์องค์กร และสื่อสารประชาสัมพันธ์

สายงานด้านกลยุทธ์ รับผิดชอบโดยนายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ (แต่งตั้งใหม่) ดูแลฝ่ายการเงินการบัญชี บริหารการขาย ทรัพยากรมนุษย์ และเทคโนโลยีและสารสนเทศ

นายอภิชาติ เปิดเผยว่า “การปรับโครงสร้างใหม่ครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่สำคัญ เพื่อมุ่งในการขับเคลื่อนองค์กร รับ New Business Landscape ในอนาคต ตลอดจนเป็นการ Empowerment ผู้บริหารในทุกสายงานให้มีความคล่องตัว สอดคล้องตาม DNA ของแสนสิริ คือ Speed to Market มีการตัดสินใจที่เฉียบคม บนข้อมูลและเหตุผลที่ตริตรองมาอย่างดี รับฟังเสียงของ Stakeholder ตามวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ชั้นนำของประเทศไทย นำเสนอทั้งผลิตภัณฑ์และบริการด้านการอยู่อาศัยที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างครบวงจร และสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย”

โครงสร้างใหม่ข้างต้น ประกอบไปด้วย 2 สายงานเดิม และอีก 2 สายงานใหม่ ซึ่งได้มีการแต่งตั้ง 2 ผู้บริหาร นำโดย น.ส.ศรีอำไพ รัตนมยูร ดำรงตำแหน่งประธานผู้บริหารฝ่ายการตลาด และ นาย ภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ ดำรงตำแหน่งประธานผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์

สำหรับน.ส.ศรีอำไพ ร่วมงานกับแสนสิริมากว่า 20 ปี เป็นผู้บริหารที่มากประสบการณ์ ได้รับการมอบหมายให้ดูแลงาน ทั้งที่แสนสิริ และบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (บริษัทลูกของแสนสิริที่ดูแลบริการหลังการขาย) อาทิ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ฝ่ายสรรหาที่ดิน รวมถึงการตลาดทั้งโครงการแนวสูงและแนวราบ มีความเชี่ยวชาญในด้านกลยุทธ์การตลาด เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Sansiri Luxury Collection หรือผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ที่ได้รับความเชื่อมั่นและการยอมรับจากลูกค้าทั้งในด้านแบรนด์ คุณภาพโครงการ รวมถึงเข้าใจในไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย สะท้อนได้จากความสำเร็จของโครงการ 98 Wireless ที่สร้างประวัติศาสตร์ครองแชมป์ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรสูงที่สุดในประเทศ กับราคารีเซลเฉลี่ยต่อตารางเมตรที่ 1 ล้านบาท และล่าสุดกับบ้านเดี่ยว “BuGaan” แบรนด์ลักชัวรี่เพื่อคนรุ่นใหม่ ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต และมองหาประสบการณ์ชีวิตที่มีคุณค่า (Life Asset Value)

ขณะที่นายภูมิภักดิ์ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และร่วมงานกับแสนสิริ มากว่า 18 ปี อีกทั้งยังอยู่เบื้องหลังความสำเร็จและสร้างการเติบโตเชิงกลยุทธ์ ผลักดันให้แสนสิริได้รับ การยอมรับจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ร่วมวางแผนในการจัดทำกลยุทธ์ Sansiri HR Transformation ที่ส่งผลให้แสนสิริได้รับการโหวตให้เป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุดรวมถึงการก้าวข้ามฟากไปดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด โดยได้จัดวางกลยุทธ์ทางด้าน Property Management ให้กับ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ และนับเป็นจุดแข็งที่สำคัญของแสนสิริที่แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ

ทั้งนี้ จากการประกาศ Business Direction เมื่อต้นปี แสนสิริยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและเดินหน้าเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้ายอดขาย ไว้ที่ 55,000 ล้านบาท เป้าหมายรายได้รวมที่ 40,000 ล้านบาท เป็นการตั้งเป้าหมายที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท

ล่าสุด งวด 10 เดือนแรกของปี แสนสิริ ยังคงสร้างผลงานได้ตามแผนงาน สามารถสร้างยอดขายได้ 40,000 ล้านบาท (คิดเป็น 73% ของเป้าทั้งปี) พร้อมเดินหน้า สร้างความเชื่อมั่น และกระตุ้นตลาดในไตรมาสสุดท้าย ด้วยแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 22 โครงการใหม่ มูลค่ารวมถึง 36,000 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน