เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. น.ส.ระพิพรรณ วรรณพินทุ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการเดินรถ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า ได้จัดเตรียมรถโดยสาร ได้แก่ รถ บขส. รถร่วม และรถตู้ จำนวน 4,000 เที่ยวต่อวัน รองรับผู้โดยสารได้ 70,000 คนต่อวัน ซึ่งก่อนหน้านี้ปี 2562 เคยมีประชาชนเดินทางสูงสุดวันละ 1 แสนคน ขณะที่ ปัจจุบันมีรถให้บริการ 3,000 เที่ยวต่อวัน ผู้โดยสาร 31,000-32,000 คนต่อวัน คาดว่า ขาไปการเดินทางจะหนาแน่นในวันที่ 28-29 ธ.ค.นี้ โดยคาดว่า จะมีผู้โดยสารมาใช้บริการประมาณ 7 หมื่นคน โดยเตรียมรถไว้ 4 พันเที่ยววิ่ง และจัดรถเสริมไว้อีก 700 คัน เพื่ออำนวยผู้โดยสารในการเดินทางเพียงพอ

ขณะนี้ ตั๋วโดยสารในเส้นทางเดินรถ บขส. เต็มแล้ว แต่ผู้โดยสารสามารถจองตั๋วได้อีก เพราะมีรถเสริมบริการตลอด ซึ่งนโยบายของกระทรวงคมนาคมจะต้องไม่มีผู้โดยสารตกค้าง โดยในวันที่ 28-29 ธ.ค. ที่คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางมากที่สุด จะมีการเดินรถพิเศษตลอดทั้งวัน และมีการนำรถ 30 เข้ามาเสริมด้วย จำนวน 700 เที่ยว ผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารทั้งวัน หรือซื้อผ่านแอพพลิเคชั่น เมื่อรถเต็มออกทันที

ส่วนขากลับ คาดว่า จะมีผู้โดยสารมากที่สุดในวันที่ 1 ม.ค. ต่อเนื่องถึงวันที่ 3 ม.ค. คาดว่า จะมีผู้โดยสารวันละ 6 หมื่น 5 พันคน ซึ่งทุกปีมีปัญหารถแท็กซี่มีไม่เพียงพอ โดยปีนี้ บขส.แก้ปัญหาโดยเชื่อมต่อการเดินทางกับ รถเมล์ ขสมก. บริเวณชานชาลาขาเข้า สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต 2 และ ขสมก. ได้จัดรถเมล์ที่วิ่งผ่านหมอชิต 2 จำนวน 12 เส้นทาง มีปลายทาง เช่น สำโรง พระประแดง บรมราชชนนี บางแค หัวลำโพง

นอกจากนี้ ยังเพิ่มจุดจอดของรถ บขส. จำนวน 70 เที่ยว ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประตู 3 โดยผู้โดยสารที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ สามารถเลือกเดินทางลงจุดจอดที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อต่อรถไฟทางไกล รฟท. รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน) และรถไฟฟ้ามหานคร สายสีน้ำเงิน สถานีบางซื่อ หรือลงจุดจอดที่ชานชาลาขาเข้า สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) เพื่อต่อรถแท็กซี่เช่นเดิม

ส่วนมาตรการของพนักงานขับรถ ปีนี้บขส.จะเพิ่มการตรวจสุขภาพ พนักงานขับรถจะต้องมีใบรับรองแพทย์ ส่วนรถร่วมฯ ได้แจ้งผู้ประกอบการ เน้นย้ำให้ดูแลเรื่องสุขภาพ ชั่วโมงการทำงาน การใช้ความเร็ว ยาเสพติด และการรูดบัตรแสดงตนก่อนปฎิบัติหน้าที่ตามกฎของกรมการขนส่งทางบก
ส่วนราคาตั๋วโดยสาร ยืนยันว่า รถ บขส. ไม่มีการปรับขึ้นราคา เว้นแต่รถ 30 ซึ่งเป็นรถที่เอกชนนำเข้ามาในระบบ จึงต้องคิดค่าโดยสารในอัตรารถมาตรฐาน 1พ ซึ่งเป็นรถ 32 ที่นั่ง เพราะนำมาอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารซึ่งมีต้นทุน เนื่องจากรถขากลับ ไม่สามารถขายตั๋วได้ และไม่มีผู้โดยสาร ทำให้ต้องตีรถเปล่ากลับมา ทำให้ค่าโดยสารอาจจะแพงกว่าตั๋วโดยสารในราคาปกติประมาณ 10-20% เช่น ราคาค่าตั๋วโดยสารไปเชียงใหม่ 800 บาท หากผู้โดยสารจะเลือกลงที่ลำพูน อาจจะต้องจ่ายค่าโดยสารในราคา 800 บาท ยกเว้นแต่จะเลือกรถที่มีจุดหมายปลายทางที่ลำพูน

“บขส.พร้อมขอความร่วมมือผู้โดยสารให้ซื้อตั๋วโดยสารจากช่องจำหน่ายตั๋ว เพราะจะไม่มีตั๋วเถื่อน ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อการพาไปขึ้นรถนอกสถานีขนส่งฯ เพราะไม่ปลอดภัย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน