นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) แก้ไขกฎหมายปลดล็อกให้การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์ รูฟท็อป) ไม่เข้าข่ายโรงงานที่ต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานอีกต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการแก้ไขกฎกระทรวง คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2567 ตามแนวนโยบายของรัฐบาล ที่มีนโยบายผลักดันให้ทุกภาคส่วนใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนโดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าจาก แสงอาทิตย์

ทั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากราคาพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนการติดตั้งโซลาร์เซลล์มีราคาถูกลง ทำให้ปัจจุบันมีผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจที่ประสงค์จะติดตั้งโซลาร์เซลล์เป็นจำนวนมาก เช่น อาคารโรงงาน ศูนย์การค้า โรงแรม มหาวิทยาลัย เป็นต้น ซึ่งตามกฎหมายโรงงานเดิมกำหนดว่าการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่มีกำลังผลิตเกินกว่า 1,000 กิโลวัตต์ หรือ 1 เมกะวัตต์ เข้าข่ายเป็นโรงงานต้องขอรับใบอนุญาต

นอกจากนี้ ยังยกระดับระบบพลังงานไฟฟ้าไทยให้มีความเสถียร ยั่งยืน เป็นพลังงานสะอาดและราคาถูก เป็นจุดแข็งสำคัญที่จะตอบสนองกติกาสากลและช่วยดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) มากขึ้น เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศแบบซีโร่คาร์บอน และนโยบาย “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน” ของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างบรรยากาศในการลงทุน และอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนให้มากที่สุด

โดยปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตโซลาร์เซลล์ มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในปริมาณมากโดยใช้จำนวนแผงเซลล์แสงอาทิตย์ หรือพื้นที่ติดตั้งลดลงกว่าเดิมถึง 2.7 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2557 ทั้งยังมีมาตรฐานควบคุมด้านความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญยังสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 500 ตันคาร์บอนไดร์ออกไซด์ต่อ เมกะวัตต์ต่อปี เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 62,500 ต้น นับเป็นการผลักดันให้ผู้ประกอบการเกิดการขับเคลื่อนทางธุรกิจอย่างสมดุลและยั่งยืน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน