นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มุ่งเน้นให้ความสำคัญในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตรกร โดยการส่งเสริมและคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตรที่มีความเชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์และภูมิปัญญาท้องถิ่น นำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับเกษตรกรไทย ตลอดจนส่งเสริมให้มีระบบควบคุมคุณภาพสินค้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค
“ล่าสุดกรมทรัพย์สินทางปัญญา ประกาศขึ้นทะเบียน “อะโวคาโดตาก” เป็นสินค้า GI ลำดับที่ 4 ของจังหวัดตาก ต่อจากสินค้าครกหินแกรนิตตาก แปจ่อเขียวแม่สอด และกล้วยหอมทองพบพระ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้ ที่ผ่านมาหน่วยงานในท้องถิ่นได้ประชาสัมพันธ์และจัดงาน “วันเกษตรพบพระ” ขึ้นเป็นประจำทุกปี ส่งผลให้อะโวคาโดตากเป็นที่รู้จักแพร่หลาย สามารถ สร้างรายได้ให้กับจังหวัดตากและเกษตรกรกว่า 1,080 ล้านบาทต่อปี”
สำหรับอะโวคาโดตาก ปลูกในเขตพื้นที่จังหวัดตาก สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงและมีพื้นที่ราบ ที่เหมาะสมต่อการปลูกต้นอะโวคาโด และยังอยู่ใกล้แหล่งน้ำสำคัญ ได้แก่ แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำกลอง แม่น้ำเมย คลองวังเจ้า และห้วยแม่ละเมา ทำให้มีน้ำในการเพาะปลูกตลอดปี ประกอบกับลักษณะดิน ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำได้ดี ดูดซับน้ำได้ในปริมาณที่เป็นประโยชน์ต่อพืช และมีธาตุอาหารที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของอะโวคาโด ส่งผลให้เนื้ออะโวคาโดตากมีลักษณะเหนียว รสชาติมัน มีกลิ่นหอม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของอะโวคาโดตาก