นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า สนพ. ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกพบว่า ราคาน้ำมันดิบยังคงทรงตัวในระดับสูง จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2567 ขึ้นจากระดับ 2.9% มาอยู่ที่ 3.1% ตัวเลขจีดีพีของยุโรปสูงกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้เศรษฐกิจของยุโรปสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ อีกทั้งตลาดได้รับแรงหนุนจากความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มตึงเครียดมากขึ้น จากสถานการณ์ในจอร์แดน รวมทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน

ประกอบกับค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.24 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 35.60 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ทำให้ต้นทุนน้ำมันเบนซินลดลง 0.02 บาทต่อลิตร และต้นทุนน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.57 บาทต่อลิตร ทำให้ค่าการตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของน้ำมันกลุ่มเบนซิน และน้ำมันดีเซล อยู่ที่ระดับ 2.35 บาทต่อลิตร

“ส่งผลให้ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 11 ก.พ. 2567 กองทุนมีสินทรัพย์รวม 28,975 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 116,803 ล้านบาท ฐานะกองทุนสุทธิติดลบ 87,828 ล้านบาท แบ่งเป็นติดลบจากบัญชีน้ำมัน 41,244 ล้านบาท บัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) หรือก๊าซหุงต้ม 46,584 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม สนพ. จะติดตามสถานการณ์ราคาพลังงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ราคาสะท้อนกับสถานการณ์ปัจจุบันตจและเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน”

นอกจากนี้ สนพ. ยังติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพไทย พบว่า ราคาน้ำมันไบโอดีเซลอ้างอิงเฉลี่ย ระหว่างวันที่ 12-18 ก.พ. 2567 อยู่ที่ ราคา 34.78 บาทต่อลิตร ลดลง 0.19 บาทต่อลิตร จากสัปดาห์ก่อน จากสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกอยู่ที่ราคาประมาณ 29.04 บาทต่อกิโลกรัม (ก.ก.) ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 0.11 บาทต่อก.ก.

สำหรับราคาเอทานอลอ้างอิงในเดือนก.พ. 2567 อยู่ที่ 31.32 บาทต่อลิตร ราคาเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.22 บาทต่อลิตร เนื่องจากราคามันสำปะหลังในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ถึงแม้ผลผลิตมันสำปะหลังเริ่มทยอยออกสู่ตลาดแต่ยังมีปริมาณน้อย ผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบการ จึงส่งผลให้ราคามันสำปะหลังสดในประเทศปรับเพิ่มสูงขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน