นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2567 ช่วงระหว่างการเข้าร่วมประชุมติดตามผลการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 13 (The WTO’s 13th Ministerial Conference: MC13) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-29 ก.พ. 2567 ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) นาย Abdou Karim FOFANA รัฐมนตรีกระทรวงการค้า และวิสาหกิจขนาดกลางและเล็ก ของสาธารณรัฐเซเนกัล ได้ขอเข้าพบหารือในระดับทวิภาคี (Bilateral Meeting)

โดยรัฐมนตรีการค้าฯ ของเซเนกัลได้แสดงความสนใจที่จะขอซื้อข้าวจากไทยในปีนี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพความมั่นคงทางด้านอาหารภายในประเทศ (Food Security) เนื่องจากเซเนกัลก็ยังไม่สามารถเพาะปลูกข้าวให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภคข้าวภายในประเทศ และกังวลผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ทั้งนี้ ในระหว่างการพบหารือกับรัฐมนตรีการค้าฯ ของเซเนกัล ได้ขอให้เซเนกัลสนับสนุนนำเข้าข้าวไทยเพิ่มขึ้น และแสดงความพร้อมที่จะเป็นแหล่งนำเข้าข้าว และส่งมอบข้าวที่มีคุณภาพมาตรฐานให้เซเนกัลในทุกสถานการณ์ตลอดไปด้วย

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยไปเซเนกัล ได้เสนอให้เซเนกัลนำเข้าสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมของไทย ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้เชิญรัฐมนตรีการค้าฯ ของเซเนกัลเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX ANUGA 2024 ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ไทย จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 พ.ค.-1 มิ.ย. 2567 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

สำหรับ เซเนกัล เป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทยมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี โดยเฉพาะสินค้าข้าว ซึ่งในปี 2565-2566 ติดกลุ่ม 1 ใน 10 ของตลาดส่งออกข้าวไทย โดยไทยส่งออกข้าวไปเซเนกัลประมาณกว่า 200,000 ตัน/ปี ซึ่งประมาณกว่าทาเ 80% เป็นข้าวหอมมะลิไทย และในปี 2567 (ม.ค.-ก.พ.) ไทยส่งออกข้าวไปเซเนกัลประมาณกว่า 60,000 ตัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน