เมื่อวันที่ 1 เม.ย. นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้า ณ ตลาดเวิลด์มาร์เก็ต เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ว่า จากการตรวจสอบพบว่าประชาชนยังคงออกมาจับจ่ายสินค้าตามปกติ แต่ปริมาณการซื้อปรับลดลง ซึ่งจากการสำรวจราคาสินค้าในตลาดเวิลด์มาร์เก็ต พบว่าส่วนใหญ่มีราคาต่ำกว่าราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ อาทิ หมู เนื้อแดง ราคาอยู่ที่ 120 บาท/ก.ก. ขณะที่ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 123 บาท/ก.ก. ไข่ไก่ เบอร์ 3 อยู่ที่ 3.33 บาท/ฟอง ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3.34 บาท/ฟอง โดยราคาลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 3.40 บาท/ฟอง

ทั้งนี้ อยากให้ผู้บริโภคช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู และไก่ไข่ ด้วยการช่วยกันรณรงค์บริโภคหมูและไข่ไก่ ให้มากขึ้น โดยเร็วๆ นี้กรม เตรียมร่วมกับเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู จัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายเนื้อสุกร

ส่วนราคาผักมีราคาทั้งปรับเพิ่มขึ้นและลง โดยถั่วฝักยาว ปรับลดลงแล้ว จาก 46.10 บาท/ก.ก. โดยสัปดาห์นี้ลงมาอยู่ที่ 43 บาท/ก.ก. คะน้า ราคาทรงตัว 33 บาท/ก.ก. ต้นหอม ผักชี สัปดาห์นี้ราคาลดลง โดยต้นหอมลดลงจาก 74.50 บาท/ก.ก. เป็น 72.50 บาท/ก.ก. ส่วน ผักชี ขยับขึ้นเล็กน้อยจากอากาศร้อน จาก 83 บาท/ก.ก. เป็น 83.90 บาท/ก.ก.

ส่วนราคา มะนาว ขณะนี้ยอมรับว่าช่วงปลายมี.ค. และต้นพ.ค. ผลผลิตมะนาวจะออกสู่ตลาดน้อย อาจกระทบต่อราคาจำหน่าย แต่ราคายังไม่ได้พุ่งแรงแพงเท่ากับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันมะนาวมีราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ 4.80 บาท/ลูก โดยราคาจำหน่ายที่สูงส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งตลาดตลาดเวิลด์มาร์เก็ตมีการจำหน่ายในราคาลูกละ 6-7 บาท อย่างไรก็ตาม เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน กรมขอให้ผู้บริโภคหันไปบริโภคมะนาวผง และน้ำมะนาวขวดเป็นทางเลือก ซึ่งจะได้รสชาติความเปรี้ยวใกล้เคียงมะนาวจริงแต่กลิ่นความหอมอาจลดลง คาดว่าปัญหาภัยแล้งจะคลี่คลายได้ในช่วงกลางพ.ค. นี้ ซึ่งจะทำให้ราคาสินค้าเกษตรผันผวนลดลง

นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงประชาชนจะออกมาจับจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น เบื้องต้นนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ สั่งการให้กรมการค้าภายใน พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าเพื่อป้องกันให้ประชาชนถูกเอาเปรียบด้านราคาและปริมาณ

เบื้องต้นกรม ได้สนธิกำลังกับกองบังคับการปราบปรามการ กระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) จัดชุดสายตรวจเฉพาะกิจออกตรวจสอบติดตาม การจำหน่ายสินค้าทั่วประเทศโดยเฉพาะการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายต้องมีความชัดเจน และราคาจำหน่ายต้องไม่สูงเกินควร หากตวจพบไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายจะถูกปรับสูงสุดไม่เกิน 1 หมื่นบาท และหากขายแพงเกินควรจะถูกจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท








Advertisement

นอกจากนี้ ยังประสานไปยังห้างค้าปลีก ห้างสรรพสินค้าให้เพิ่มสต๊อกสินค้าให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมทั้งประสานไป สมาคมตลาดสดไทยให้ร้านค้าในตลาดปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ชัดเจนครบถ้วนด้วย ทั้งนี้ หากพบเห็นการไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย หรือ ขายสินค้าแพงเกินควร สามารถร้องเรียนมาที่ สายด่วน 1569

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน