ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ว่า เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนในภาคตะวันออก โดยเฉพาะแก้ไขปัญหาแก้ไขปัญหาผลไม้ภาคตะวันออก ปี 2567 และภัยแล้งที่ระยะยาว โดยมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางกำหนดมาตรการราคาที่ยั่งยืน รวมถึงการ บูรณาการระหว่างภาครัฐและเอกชนในการเปิดตลาดใหม่ เพื่อกระจายผลไม้ตามฤดูกาล

ทั้งนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการ Fruit Board มอบให้ทูตเกษตรประจำประเทศต่างๆ เข้าร่วมวิเคราะห์สถานการณ์การส่งออกผลไม้ไทยแต่ละประเภท โดยเฉพาะสถานการณ์ในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกผลไม้ของไทยที่สำคัญ สำหรับราคาทุเรียนยังคงเป็นที่น่าพอใจ ขอให้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพทุเรียนให้เป็นไปตามมาตรฐาน ในส่วนของลำไยที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยว คณะกรรมการที่รับผิดชอบจะมีการประชุมหารือร่วมกับเกษตรกรสวนลำไย เพื่อหารือมาตรการด้านราคาต่อไป

สำหรับตลาดเป้าหมายที่สำคัญสำหรับผลไม้ไทย คือ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสถานการณ์และแนวโน้มการค้าผลไม้จากประเทศไทยในตลาดเจียซิง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเจียซิง เป็นตลาดค้าส่งผลไม้ขนาดใหญ่ ปี 2566 มีปริมาณการค้าผลไม้นำเข้า 8.96 แสนตัน มูลค่าการค้า 25,600 ล้านหยวน หรือ 1.5 แสนล้านบาท ปริมาณการค้าผลไม้จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครองสัดส่วนประมาณ 74.16% ของการค้าผลไม้นำเข้า ดังนี้ 1. มูลค่าการค้าทุเรียนไทย 8,345 ล้านหยวน

2. มูลค่าการค้าลำไยไทยรวม 910 ล้านหยวน 3. มูลค่าการค้ามะพร้าวอ่อนไทย 286 ล้านหยวน และ 4. มูลค่าการค้ามังคุดไทย 918 ล้านหยวน โดยผลไม้ไทยทั้ง 4 ชนิด มีปริมาณการค้ารวม 288,240 ตัน สัดส่วน 43.35% ของปริมาณการค้าผลไม้จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการขออนุญาตก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนทางการเกษตรในจังหวัดจันทบุรีและเป็นการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งอย่างยั่งยืน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน