นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงแผนการขายข้าวตามนโยบายของรัฐบาล ว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะบุกตลาดเดิมและตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น ตลาดข้าวพรีเมียม ในสหรัฐ เซเนกัล จีน ฮ่องกง ซาอุดีอาระเบีย ข้าวขาว ในฟิลิปปินส์ อิรัก ญี่ปุ่น มาเลเซีย ข้าวนึ่ง ในแอฟริกาใต้ เบนิน ไนจีเรีย บังกลาเทศ และข้าวเพื่อสุขภาพ ในสหภาพยุโรป ออสเตรเลีย สิงคโปร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานของข้าวไทย และผลักดันให้มีการนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปี 2567 เป็นต้นมา ภาคเอกชนไทยยังชนะการประมูลสำหรับการนำเข้าข้าวขาว 5% ของอินโดนีเซียกว่า 4 แสนตันชี้ให้เห็นว่า ข้าวขาวไทยยังเป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศนอกเหนือจากข้าวหอมมะลิไทย และมีแนวโน้มที่จะมีคำสั่งซื้อข้าวชนิดดังกล่าวจากไทยเพิ่มขึ้น
สำหรับสถิติการส่งออกจากข้าวในช่วงเกือบ 4 เดือนแรกปีนี้คือระหว่าง 1 ม.ค. – 22 เม.ย. 2567 ไทยส่งออกข้าวแล้วปริมาณ 3.06 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 70,717 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ที่ส่งออกปริมาณ 2.48 ล้านตัน มูลค่า 45,975 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 23.39% และ 53.82% ตามลำดับ โดยตลาดที่ไทยส่งออกข้าวไปเป็นอันดับหนึ่ง คือ อินโดนีเซีย 680,099 ตัน รองลงมา ได้แก่ อิรัก 353,100 ตัน แอฟริกาใต้ 216,050 ตัน เซเนกัล 120,140 ตัน และฟิลิปปินส์ 116,925 ตัน
หากสถานการณ์การส่งออกข้าวไทยยังมีทิศทางที่ดีเช่นนี้ โดยราคาข้าวไทยยังคงปรับตัวอยู่ในระดับที่แข่งขันได้เช่นในปัจจุบัน รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดและประชาสัมพันธ์ข้าวไทยเพื่อกระตุ้นให้เกิดความต้องการบริโภคและการซื้อข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปริมาณการส่งออกข้าวไทยทั้งปีจะทะลุเกินเป้าหมายที่ 7.5 ล้านตัน อย่างแน่นอน