นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึง กรณีอุบัติเหตุรถโดยสารไม่ประจำทางสองชั้นคันหมายเลขทะเบียน 30-0161 กาฬสินธุ์ เกิดอุบัติเหตุเสียหลักแหกโค้งข้ามแท่งปูนกลางถนนไปชนร้านขายของและต้นไม้ข้างทาง บริเวณถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 กิโลเมตรที่ 242 โค้งมะกรูดหวาน ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2561 เวลาประมาณ 19.07 น. เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และบาดเจ็บอีก 33 ราย นั้น กรมการขนส่งทางบก ลงพื้นที่ทันทีพร้อมประสานทุกหน่วยงานในพื้นที่ช่วยเหลือผู้โดยสารผู้บาดเจ็บโดยเร็วที่สุดเป็นลำดับแรก เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่พักรักษาตัว ณ โรงพยาบาลวังน้ำเขียว, โรงพยาบาลปักธงชัย, โรงพยาบาลกรุงเทพ-โคราช, และโรงพยาบาลมหาราช พร้อมทั้งนำข้อมูล GPS ประกอบการพิจารณาดำเนินคดี หารือกับพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามผลคดีอย่างใกล้ชิด

และสั่งการเรื่องการช่วยเหลือและคุ้มครองผู้โดยสาร ตามที่ผู้ประกอบการขนส่งได้ทำประกันภัยภาคสมัครใจและภาคบังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ไว้กับบริษัทอาคเนย์ประกันภัย จำกัด จ่ายค่าสินไหมแก่ผู้บาดเจ็บสูงสุด 130,000 บาทต่อราย กรณีเสียชีวิตสูงสุดได้คนละ 650,000 บาท ซึ่งได้ประสานสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ให้ดูแลช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บโดยเร็ว ทั้งค่าปลงศพและการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลให้ครบถ้วนและถูกต้องตามสิทธิประโยชน์ ประสานโรงพยาบาลดูแลผู้บาดเจ็บจนกว่าแพทย์จะอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล พร้อมดูแลเรื่องการเดินทางกลับภูมิลำเนาตามที่ผู้โดยสารมีความประสงค์ต่อไป

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เรียกตัวผู้ประกอบการขนส่ง คือนางทัน เลิศสหพันธ์ พร้อมพนักงานขับรถขณะเกิดเหตุ คือนายกฤษณะ จุฑาชื่น มาชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณาการลงโทษขั้นสูงสุดทุกกรณีความผิดทั้งผู้ประกอบการและพนักงาน ขับรถพร้อมส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก กฎหมายแพ่ง และอาญาต่อไป โดยได้แจ้งผู้ประกอบการให้นำรถในประกอบการที่เหลือทั้งหมดอีกจำนวน 2 คัน เข้ารับการตรวจสภาพรถทันที หากพบสภาพรถไม่พร้อมใช้งานจะพิจารณาสั่งห้ามใช้รถหรือเพิกถอนรถออกจากบัญชีทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน