นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล รองผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย( รฟม.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา รฟม. ได้เปิดรับซองข้อเสนอ เชิญชวนเอกชนเข้าร่วมคัดเลือกเป็นผู้รับสัมปทานงานออกแบบและก่อสร้างงานโยธา พร้อมระบบเครื่องกลและไฟฟ้า รวมทั้งงานให้บริการการจัดการเดินรถและบำรุงรักษาโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. วงเงินลงทุน 53,519.50 ล้านบาท และ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 29.1 กม. วงเงินลงทุน 51,931.15 ล้านบาท ปรากฏว่า มีเอกชนเพียง 2 รายเท่านั้น ที่ยื่นซองข้อเสนอราคา จากที่ก่อนหน้านี้มีเอกชนเข้ามาซื้อซองมากถึง 16 ราย โดยทั้ง 2 รายได้เสนอเข้าร่วมประมูลรถไฟฟ้าทั้ง2เส้นทาง

สำหรับบริษัทที่ยื่นยืนเสนอซองประกอบด้วย 1.กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ซึ่งประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS Group),บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)และ 2.บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM)

พีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล

พีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล

นายพีระยุทธกล่าวว่าสำหรับขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 35 จะพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การประเมินข้อเสนอและเปิดซองข้อเสนอฯ ในวันที่ 17 พ.ย. นี้ คาดว่าเวลาประมาณ 3 เดือน ในการประเมินผลข้อเสนอ และเจรจาต่อรองกับเอกชนผู้ชนะการคัดเลือก ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ซึ่งคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาได้ประมาณเดือนเม.ย. 2560

สำหรับสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และสีเหลืองฯ นั้นเป็นโครงการในรูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดย รฟม. ลงทุนด้านการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและผู้รับสัมปทานลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทางโยธา ระบบเครื่องกลและไฟฟ้า (รถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบคร่อมราง) และให้บริการการจัดการเดินรถและบำรุงรักษา รวมถึงเป็นผู้จัดเก็บค่าบริการ (PPP Net Cost) ซึ่งมีระยะเวลาสัมปทาน 33 ปี 3 เดือน โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1: งานออกแบบและก่อสร้างงานโยธา พร้อมระบบเครื่องกลและไฟฟ้า เป็นระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน และระยะที่ 2: งานให้บริการด้านบริหารจัดการการเดินรถและบำรุงรักษา เป็นระยะเวลา 30 ปี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน