นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ปีนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมีกำหนดจัดงานสงกรานต์ 4 ภาค ภายใต้ชื่อ “วอเตอร์ เฟสติวัล 2018” เทศกาลวิถีน้ำ วิถีไทย ครั้งที่ 4 วันที่ 13-15 เม.ย. 2561 ภายใต้แนวคิด “รื่นเริง เถลิงศก” โดยภาคกลางจัดใน 8 พื้นที่ท่าน้ำ ได้แก่ 1. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม 2. วัดอรุณราชวราราม 3. วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร 4. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร 5. ท่ามหาราช 6. ท่ายอดพิมาน 7. ริเวอร์วอร์ก 8. เอเชียทีคเดอะริเวอร์ฟร้อนต์ และขยายพื้นที่จัดงานไปยัง ล้ง 1919 อีกด้วย ภาคเหนือ จัดที่พิพิธภัณฑ์เรือนโบราณล้านนา จ.เชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดที่ลานวัฒนธรรมมรดกโลกบ้านเชียง จ.อุดรธานี ภาคใต้ จัดที่ ถนนดีบุก จ.ภูเก็ต

กระทรวงฯ จัดทำโครงการ Amazing Thailand, Amazing 8K นับเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่าง ททท. และบริษัท ชาร์ปไทย จำกัด ในการจัดทำสื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ประเทศไทยผ่านอุปกรณ์บันทึกภาพและจอภาพเทคโนโลยีล่าสุด โดย ททท. นำเสนอแนวคิดในการบันทึกภาพสถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรม เทศกาล และงานประเพณีในประเทศไทยเผยแพร่ผ่านจอภาพที่ใช้เทคโนโลยี 8K ซึ่งมีความละเอียดสูง สามารถถ่ายทอดให้เห็นภาพที่มีรายละเอียดคมชัด โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ งานสถาปัตยกรรมของวัดวาอารามต่างๆ งานหัตถศิลป์ที่มีความวิจิตรบรรจงของฝีมือช่าง รวมถึงอาหารไทยนานาชนิดที่มีสีสันชวนรับประทาน

และอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือ กิจกรรมถ่ายภาพ “Selphy Extreme” การถ่ายภาพเซลฟี่รูปแบบใหม่ในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ โดยการนำกล้อง Multi Camera ที่สามารถเก็บภาพระยะไกลตั้งกล้องโดยผู้ถ่ายเซลฟี่จะยืนอยู่ ณ จุดถ่ายภาพไม่เกิน 100 เมตร และเซลฟี่ตัวเอง ในเบื้องต้นของการทดลองใช้ระบบ จะทำการถ่ายภาพโดยทีมงาน เมื่อถ่ายภาพเสร็จผู้ถ่ายสามารถไปสแกน QR Code เพื่อรับไฟล์ภาพเป็นระบบ MP4 และสามารถแชร์ภาพผ่านช่องทางโซเชี่ยลต่างๆ หลังจากพัฒนาระบบเสร็จสมบูรณ์ จะมีแอพพลิเคชั่นมารองรับทำให้ผู้ถ่ายภาพสามารถถ่ายเซลฟี่ตัวเองจากโทรศัพท์มือถือได้ทันที กิจกรรมดังกล่าวจะเริ่มทดลองใช้ในวันที่ 13-15 เม.ย. 2561 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และลำดับต่อไปเป็นเมืองรอง 55 จังหวัดทั่วประเทศ

ดังนั้น เพื่อตอกย้ำแนวคิดเรื่องการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแบบวิถีไทยให้มีความยั่งยืน จึงขอเชิญชวนให้ทุก ภาคส่วนเข้ามาร่วมกิจกรรม และช่วยกันบอกต่อไปถึงผู้คนทั้งหลายมาร่วมมือกันย้อนเมืองไทยให้แขกบ้านแขกเมือง ได้แลเห็น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ “มาชวนกันนุ่งไทย..ใส่ผ้าพื้นเมือง..รำลึกเรื่องอดีต..ดูแลผู้สูงวัย..ให้ทางวีลแชร์.. แห่ไปชิมอาหารถิ่น..ประหยัดน้ำ แต่ล้นด้วยน้ำใจ..ขับขี่ปลอดภัย..สนุกเบิกบาน..โดยไม่เน้นคึกคะนอง..ประคองสิ่งแวดล้อม..ลดการใช้ถุงพลาสติก..ฯลฯ” ให้ตระหนักถึงความสำคัญของวัฒนธรรมประเพณีอันเป็นมรดกของไทย

ซึ่งการจัดในแต่ละพื้นที่ถือเป็นการแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง เพราะแต่ละพื้นที่ต่างมีเอกลักษณ์ของตน มีแหล่งท่องเที่ยวที่สะท้อนความเป็นไทย และความสามารถในการจัดกิจกรรมที่แตกต่างกันไป เมื่อนำมาแสวงจุดร่วมกับกรุงเทพมหานครจึงเกิดเป็นมิติใหม่ที่สามารถตอกย้ำภาพลักษณ์ความผูกพันระหว่างคนไทยกับสายน้ำที่มีมาอย่างยาวนาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน