พาณิชย์ เผยส่งออก พ.ค.โกยเงินเข้าไทยเฉียด 1ล้านล้านบาท มูลค่าสูงสุดในรอบ 14 เดือน หลังผลไม้สดขยายตัวสูง 91% ภาคการผลิตโลกฟื้นตัว
เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2567 นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผอ.สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการส่งออกเดือนพ.ค.67 ว่า มีมูลค่า 26,219.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (960,220 ล้านบาท) ขยายตัว 7.2% หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย
ขยายตัว 6.5% การส่งออกไทย ทำมูลค่าสูงสุดในรอบ 14 เดือน ทำให้ดุลการค้ากลับมาเกินดุลในรอบ 5 เดือน โดยได้รับแรงหนุนสำคัญจากการส่งออกสินค้าหมวดเกษตรกรรม ที่มีอัตราเติบโตสูงถึง 36.5% โดยเฉพาะผลไม้สดและแช่แข็งขยายตัวสูงถึง 91.1% อาทิ ทุเรียน
เนื่องจากเป็นเดือนที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก ขณะที่ยางพาราขยายตัว 46.6 % โดยเฉพาะในตลาดจีน มาเลเซีย ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ส่วนสินค้าหมวดอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัว 0.8 % ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และสินค้าอุหมวดตสาหกรรมขยายตัว 4.6 % โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว
อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัว 44.4 % โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ จีน ฮ่องกง เนเธอร์แลนด์ และสิงคโปร์, เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัว 110.7% โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ ฮ่องกง ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และไต้หวัน
ขณะเดียวกันภาคการผลิตของโลกฟื้นตัวได้ดี สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของโลก (Global PMI) ที่มีทิศทางขยายตัวเร่งขึ้น ตามเศรษฐกิจโลกที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนการนำเข้าในเดือน พ.ค. มีมูลค่า 25,563.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 1.7% ส่งผลไทยขาดดุลการค้า 656 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายพูนพงษ์ กล่าวต่อถึงภาพรวมการส่งออกไทยในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.)ปี67 มีมูลค่า 120,493.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 2.6 % เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 125,954.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 3.5% ส่งผลให้ขาดดุล 5,460.7 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนแนวโน้มการส่งออกในเดือน มิ.ย.67 คาดว่าจะเติบโตเป็นบวกต่อเนื่อง เป็นตัวเลขหลักเดียว ส่วนทั้งปีนี้คาดว่า การส่งออก จะยังเติบโตได้ดีจากแรงหนุนการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ช้า แต่มั่นคง โดยการองค์การการค้าโลก (WTO) ระบุว่าปริมาณการค้าโลกจะขยายตัว 2.6 % จากปีก่อนหน้า
จากปัญหาเงินเฟ้อที่บรรเทาเบาบางลง และท่าทีของธนาคารกลางแต่ละประเทศ ที่มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนและการผลิตโลกให้ฟื้นตัวอีกครั้ง แต่ยังมีความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง
รวมทั้งปัญหาค่าระวางเรือที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นในบางเส้นทาง อาจเป็นปัจจัยลบต่อการส่งออกไทย ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ นอกจากนี้ผลการเลือกตั้ง ของแต่ละประเทศ ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะอาจส่งผลต่อนโยบายการค้า ที่มีต่อการค้าระหว่างประเทศของไทยด้วย
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยยังมีโมเมนตั้มที่ดี ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยมั่นใจว่าในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้จะเติบโตเป็นบวกได้ราว 2% แต่กังวลเรื่องต้นทุนค่าระวางเรือที่เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดือนมี.ค.จากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์