YLG ชี้ทองคำทำไฮใหม่ทะลุเป้า เชื่อสิ้นปีไปต่อได้ถึง 2,750 ดอลลาร์ จับตาเลือกตั้งสหรัฐฯ กระตุ้นทองผันผวนเพิ่ม แนะนักลงทุน เสี่ยงซื้อเก็งกำไรระยะสั้น

วันที่ 18 ต.ค.2567 น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) เปิดเผยว่า ราคาทองคำพุ่งขึ้นแรงอย่างต่อเนื่อง ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติกาลครั้งใหม่ 2,714 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ณ วันที่ 18 ต.ค. 2567 เวลา 12.45น.

แม้วานนี้จะมีแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ ขานรับยอดค้าปลีกสหรัฐออกมาบวก 0.4% สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 0.3% แต่ทองคำก็ยกตัวสูงกว่าจุดต่ำสุดของการแกว่งตัวในช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นการรักษาทิศทางเชิงบวกได้อย่างแข็งแกร่ง

การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในครั้งนี้ จะทะลุเป้าหมายที่ วายแอลจี ให้ไว้ที่ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์แล้ว แต่จากแรงซื้อที่แข็งแกร่ง และแรงขายในระดับจำกัด ส่งผลให้ภาพในทางเทคนิคจึงยังอยู่ในกรอบการแกว่งตัวขึ้น จึงประเมินว่าภายในสิ้นปีนี้ ราคาทองคำอาจยังไปได้ต่อสู่เป้าหมาย 2,750 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์

ความร้อนแรงของทองคำมาจากปัจจัยบวก 4 ด้าน ดังนี้
1.ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังอิสราเอลได้มีการยืนยันการเสียชีวิตของ “ยาห์ยา ซินวาร์” ผู้นำกลุ่มฮามาส จากที่ก่อนหน้าได้สังหาร “มุสตาฟา ฮาริรี” ผู้บัญชาการของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอน สถานการณ์ดังกล่าว จึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่า ฮามาส-ฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน จะมีการตอบโต้กลับหรือไม่

2.ธนาคารกลางทั่วโลกมีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีหน้า แสดงให้เห็นว่าทองคำจะมีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากทองคำไม่ได้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย จึงไม่ได้รับผลกระทบต่อประเด็นดังกล่าว

3.กองทุน ETF ทองคำกลับมาเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยในเดือน ก.ย. กองทุน ETF ทองคำ มีเงินทุนไหลเข้ามา 1,400 ล้านดอลลาร์ หรือ คิดเป็นการซื้อสุทธิ 18.4 ตัน ทำให้การถือครองสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 3,200 ตัน

4.ความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งสหรัฐ กระแสการกลับมาของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่อาจคว้าชัยการเลือกตั้งสหรัฐฯ ได้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนทั่วโลก จึงพักเงินไว้ในทองคำบางส่วนเพื่อเป็นหลุมหลบภัย แต่จะต้องประเมินอีกครั้ง ในนโยบายที่เกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง เนื่องจากดัชนีดอลลาร์แข็งค่าด้วยเช่นกัน ประเด็นดังกล่าวจึงทำให้ทองคำผันผวนมากขึ้น

สำหรับการทำระดับสูงสุดใหม่รอบนี้ เป็นการบ่งชี้ถึงแรงซื้อเก็งกำไรที่มีเข้ามาเพิ่มขึ้น จนราคาดีดตัวขึ้นแรง วายแอลจี จึงมีคำแนะนำว่า ในระยะนี้ให้เน้นการลงทุนระยะสั้น โดยยังเสี่ยงเปิดสถานะซื้อ ตามเทรนด์หลัก เมื่อราคาปรับตัวลงมาแล้วสามารถยืนเหนือแนวรับ 2,685-2,666 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์

โดยเมื่อราคาปรับตัวขึ้น ให้ทยอยปิดทำกำไรที่โซนแนวต้าน 2,735-2,750 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุน หากราคาหลุดแนวรับ 2,666 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ขณะที่ด้านทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ แนะนำแนวรับที่ 42,100-41,800 บาทต่อบาททองคำ และแนวต้านที่ 42,850-43,100 บาทต่อบาททองคำ (คำนวณด้วยระดับอัตราแลกเปลี่ยน 33.11 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ)

ส่วนนักลงทุนที่สนใจลงทุนทองคำในสัญญาซื้อขายในตลาดฟิวเจอร์ส ล่าสุด วายแอลจีได้ออกโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีกับ YLG Futures รับสิทธิ์ใช้งาน trading View Essential Plan ที่จะมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า 5 ด้าน 1.กราฟและอินดิเคเตอร์ครบครัน รวมถึง Volume Profile 2.เครื่องมือวาดรูปและฟีเจอร์ทางเทคนิค 3.การแจ้งเตือนราคา 4.ไอเดียเทรดจากคอมมูนิตี้ 5.ไม่มีโฆษณาและอีกจำนวนมาก

นอกจากนี้ วายแอลจี มองว่าการลงทุนสะสมแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ เพราะจะทำให้นักลงทุนสามารถสร้างวินัยการออม และเข้าถึงราคาทองได้หลากหลาย อีกทั้งปัจจุบันยังสามารถตั้งเวลาซื้อล่วงหน้าได้อีกด้วย

สำหรับนักลงทุนมือใหม่วายแอลจีแนะนำแอปพลิเคชั่น Get Gold ที่วายแอลจีเปิดให้บริการสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำโดยใช้เงินลงทุนเพียง 100 บาท ได้รับการตอบรับอย่างดี เนื่องจากตอบโจทย์การลงทุนของคนรุ่นใหม่ที่สามารถซื้อ-ขายทองคำ Gold Spot แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง เข้าถึงง่ายด้วยสมาร์ตโฟน และมีความน่าเชื่อถือ ด้านความปลอดภัย สามารถทำกำไรได้จริง

โดยผู้สมัครสามารถยืนยันตัวตนพร้อมยื่นเอกสารผ่านแอปพลิเคชั่น รู้ผลอนุมัติได้ภายในวันเดียว และสามารถทำการซื้อ-ขาย ทองคำได้ทันที เปิดให้ลงทุนเริ่มที่ 100 บาท ไปจนถึง 80 กิโลกรัมต่อ 1 วัน ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้ที่ App Store และ Play Store หรือโทร. 0-2678-9888 #1

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน