ภาคท่องเที่ยวกลายเป็นกลจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภายใต้การนำของ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และ น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. นำทัพผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย ร่วมงาน World Travel Market (WTM) 2024 จัดขึ้นในวันที่ 5-7 พ.ย. 2567 ณ Excel London กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

WTM 2024 เป็นงานส่งเสริมทางการขายที่เปิดโอกาส ให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทั้งภาครัฐ เอกชน อาทิ โรงแรม บริษัทนำเที่ยว สายการบิน บริษัทรถเช่า และธุรกิจบริการท่องเที่ยวอื่นๆ จากทั่วโลกร่วมนำเสนอการขายสินค้าทางการท่องเที่ยว ในฐานะผู้ขาย(Exhibitor หรือ Seller) เพื่อประชาสัมพันธ์ พบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการนำเที่ยว (Tour Operator) ที่มาร่วมงานในฐานะผู้ซื้อ (Buyer/ Trade Visitor) จึงถือเป็นงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่มีความสำคัญของโลก

โอกาสนี้ ททท. ยังได้รับพระกรุณาธิคุณจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเข้าร่วมงานเพื่อเยี่ยมชมคูหาประเทศไทย พร้อมทรงสาธิตการออกแบบตกแต่งตุ๊กตาหมี TEDDY HOUSE ด้วยเครื่องแต่งกายชุดผ้าไทยหลายรูปแบบ ได้แก่ ชุดผ้าบาติก ชุดช้าง ชุดมวยไทย ชุดลอยกระทง ซึ่งถือเป็นการต่อยอดและเพิ่มมูลค่าแก่ผ้าไทยในอีกรูปแบบหนึ่ง

และประทานสัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จากกระแสหมูเด้งที่โด่งดังไปทั่วโลก ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของประเทศไปด้วย หมูเด้งเป็นกระแสจริงๆ เป็นปรากฏการณ์พิเศษอย่างมาก น่ารักจริงๆ เลย ตอนนี้ทั่วโลกรู้จักประเทศไทยอยู่แล้ว แต่หมูเด้งทำให้ประเทศไทยรู้จักเป็นอันดับต้นๆ

ฉะนั้นเราจะต้องต่อยอดหมูเด้งเพื่อนำมาดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้ไปเที่ยวชลบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมูเด้งอยู่ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว และจังหวัดรอบๆ การเดินทางไปท่องเที่ยวชลบุรี ก็จะได้เที่ยวทะเลมีอาหารทะเล มีอะไรดีๆ ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ผู้อำนวยการสวนสัตว์เขาเขียวก็น่ารัก พี่เลี้ยงหมูเด้งเป็นติ๊กต็อกเกอร์ที่มีความสามารถทำให้หมูเด้งดังไปทั่วโลก จึงควรใช้โอกาสนี้โปรโมตสัตว์ต่างๆ ในแนวนี้

“สำหรับปี 2568 ปีหน้ามีการโปรโมต Amazing Thailad Grand Tourism and Sports Year เป็นการที่จะเผยแพร่การท่องเที่ยวให้ทุกคนว้าว หลังจากที่การท่องเที่ยวของเราภายหลังจากโควิด-19 ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมา เราจะต้องมีการท่องเที่ยวพิเศษที่ทรงพลังกว่าเดิม ทำให้นักท่องเที่ยวจดจำประเทศไทยตลอดไป และอยากกลับมาเที่ยว เขาจะสนุกและมีความสุขรู้สึกปลอดภัย

ฉะนั้นต้องขอความร่วมมือกับคนไทยทุกคนให้เป็นเจ้าของบ้านที่ดี ดูแลนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ให้ประเทศไทยมีสถานที่น่าเที่ยว และนักท่องเที่ยวอยากจะกลับมาเที่ยวอีก สิ่งที่ว้าวเชิญนักท่องเที่ยวมาสัมผัสเสน่ห์ไทย เช่น รอยยิ้มคนไทย อาหารไทย มาต่อยมวยไทยกัน มาดูแฟชั่นโชว์ เอ็นจอยผ้าไทยที่มีหลากหลาย มาดูหมูเด้ง มาสนุกกับเทศกาลต่างๆ ที่มีเยอะเลยและก็จะว้าวมากขึ้นทุกปี”

ทั้งนี้ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาได้ถือโอกาสที่เดินทางร่วมงานร่วมประชุมผู้บริหารที่ดูแลสำนักงาน ททท. ในยุโรป 7 สำนักงาน พร้อมมอบนโยบาย และเป้าหมายขับเคลื่อนปี 2568 โดยให้ดึงอีเวนต์จากระดับโลกหลากหลายรูปแบบเข้ามาจัดในไทย ทั้งเทศกาลดนตรี กีฬา ศิลปะ และเพื่อผลักดันเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติในตลาดระยะไกล (longhaul) เที่ยวเมืองไทยเพิ่มเป็น 11 ล้านคน คิดเป็น 27.5% ของตลาดต่างประเทศ 40 ล้านคนเป็นการสร้างสถิติใหม่อีกครั้ง

นายสรวงศ์เปิดเผยว่า งาน World Travel Market (WTM) เป็นหนึ่งในงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของโลก และมีความสำคัญที่สุดในตลาดนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักร ตั้งเป้าให้ WTM 2024 เป็นเวทีที่กระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวม ช่วยผลักดันเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทย 40 ล้านคน จาก 39 ล้านคน และตั้งเป้ารายได้ใหม่ที่ 2.4 ล้านล้านบาทในปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025

ดังนั้นเมื่อต้องการขยับเป้าหมาย เพิ่มนักท่องเที่ยวจำเป็นต้องขับเคลื่อนนโยบาย โดยผลักดันให้ไทยเป็นฮับเอ็นเตอร์เทนเมนต์-อีเวนต์ ดึงกิจกรรมทั้งดนตรี กีฬา และอีเวนต์ระดับโลกเข้ามาในไทยให้มากขึ้น โดยมอบหมายให้ททท. รับหน้าที่เจรจากับเจ้าของ WTM เพื่อนำสิทธิ์การจัดงาน WTM Asia มาในประเทศไทย โดยมอบการบ้านให้สำนักงานภูมิภาคยุโรปเน้นเพิ่มค่าใช้จ่าย ยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการเพิ่มความถี่ วันพักค้าง และเพิ่มการวิเคราะห์โอกาสเเละอุปสรรคการท่องเที่ยวในตลาดยุโรป

นายสรวงศ์กล่าวต่อว่า เตรียมเชิญเอกอัครราชทูตประเทศเป้าหมายที่ต้องกระตุ้นยอดท่องเที่ยว มาหารือเพื่อร่วมกันพิจารณา เพิ่มไฟลต์บินเข้าไทย และเชิญผู้ว่าราชการจังหวัด และอบจ.มาเข้าร่วมออกแบบสินค้าท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับพื้นที่และบริบทของโลก ส่วนเป้าหมายปี 2567 ททท. จะนำยุโรปเที่ยวเมืองไทยให้ถึง 9,692,399 คน สร้างรายได้กว่า 696,788 ล้านบาทขณะนี้ 1-31 ต.ค. 2567 มีนักท่องเที่ยวยุโรปเดินทางเข้าไทยแล้ว 5,284,096 คน

น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า งาน WTM จัดติดต่อกันมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.1980 และในปี 2568 ถือเป็นครั้งที่ 43 ที่ประเทศไทยเข้าร่วมงาน โดย นำผู้ประกอบการทั้งหมด 42 ราย ที่ประกอบด้วย โรงแรมรีสอร์ต จำนวน 32 ราย และ DMC จำนวน 10 ราย จากกรุงเทพฯ 8 ราย, พัทยา ชลบุรี 1 ราย และพระนครศรีอยุธยา 1 ราย ร่วมนำเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย และพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการนำเที่ยวจากทั่วโลก

การร่วมงาน WTM 2024 ททท. นำแนวคิด “IGNITE Thailand : Soft Power & Sustainability” โดยการนำเสนอนโยบาย IGNITE Thailand’s Tourism ควบคู่กับอัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่าน “เสน่ห์ไทย” เมืองน่าเที่ยว และแนวคิด 5 Must Do in Thailand รวมทั้งแนวทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญของการท่องเที่ยวไทยและสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว

ภายในงานได้มีการนำเสนอเสน่ห์ไทย (Soft Power) ผ้าไทยและงานฝีมือที่โดดเด่น โดยใช้ลวดลายของผ้าไทยและเฉดสีของผืนผ้าที่มาจากธรรมชาติ รวมทั้งงานคราฟต์จักสานจากภูมิภาคต่างๆ เข้ามาตกแต่ง ที่มาจากธรรมชาติ รวมทั้งงาน คราฟต์จักสานจากภูมิภาคต่างๆ เข้ามาตกแต่ง เพื่อสะท้อนเสน่ห์และอัตลักษณ์ไทยผ่านสีสัน ศิลปะ แฟชั่น และงานคราฟต์จากภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด Thai Craft Destination Showcase

คัดเลือกผลิตภัณฑ์ผ้าทอทำมือ ทั้งผ้าย้อมคราม ผ้าทอตีนจก ผ้าหม้อห้อม ผ้าขาวม้า จาก 6 จังหวัดเมืองน่าเที่ยว ผ่านสีสันการย้อมผ้าสีธรรมชาติที่เป็นอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง แพร่ สุโขทัย สกลนคร และเลย มาจัดแสดงภายในคูหา รวมทั้งจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ไทยต่างๆ ได้แก่ ผ้าย้อมคราม จาก Man Craft และ Bhukram จ.สกลนคร, Kanz by Thaitor และ Tone Kram Phram จ.แพร่, FolkCharm จ.เลย, Fah Thai จ.ลำปาง และ Suntree จ.สุโขทัย

สําหรับตลาดนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักรถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลที่มีคุณภาพและมีอัตราการเดินทางมายังประเทศไทยสูง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ต.ค. 2567 มีนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว จำนวน 739,837 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเอง (FIT ) ถึง 94% และรูปแบบทัวร์ 6% ในจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเที่ยวประเทศไทย มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยครั้งแรกถึง 58% โดยมีระยะเวลาพำนักนานประมาณ 18.3 วัน

มีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่อทริปสูง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 64,488 บาทต่อคนต่อทริป คาดว่าตลอดทั้งปี 2567 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรเดินทางเข้าไทยทั้งสิ้น 980,887 คน และสร้างรายได้หมุนเวียนทางการท่องเที่ยวทั้งสิ้น 83,810 ล้านบาท

นักท่องเที่ยวตลาดสหราชอาณาจักรนิยมเดินทางท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ และเยี่ยมญาติ ในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวอย่างกรุงเทพมหานคร สุราษฎร์ธานี กระบี่ ภูเก็ต และเชียงใหม่ทั้งยังมีความสนใจเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจชุมชนทำให้เป็นหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยสำคัญต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดระยะไกล

ด้าน นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา (ททท.) กล่าวว่า ล่าสุด ททท. ได้รับรางวัล “Best Stand Feature” จากการจัดแสดงสินค้าท้องถิ่นและซอฟต์พาวเวอร์ ที่งาน WTM London 2024 จึงจะใช้โอกาสนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการหารือกับ WTM เอเชียในไทยคาดว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปีล่วงหน้าในการเจรจากว่าจะเกิดงานจริง

WTM 2024 บูธของททท. ถือว่าได้รับความสนใจอย่างมาก จนได้รับรางวัล “Best Stand Feature” ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่ที่สุดในงาน ในช่วง 3 วันที่จัดงาน ยังมีการพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการนำเที่ยวจากทั่วโลก

คาดเกิดการนัดหมายทางธุรกิจ ไม่ต่ำกว่า 950 นัดหมาย และสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 898 ล้านบาท

พัทธ์ธีรา วงษ์อัศวกรณ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน