นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เปิดเผยว่า ไอคอนสยาม จุดหมายปลายทางระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา เตรียมจัดงาน Global Countdown Destination มหาปรากฏการณ์เฉลิมฉลองศักราชใหม่ “Amazing Thailand Countdown 2025” ระหว่างวันที่ 29-31 ธ.ค. 2567 ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม ภายใต้ความร่วมมือองค์กรพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นที่กล่าวขวัญถึงทั่วโลก

ซึ่งการจัดงานเคานต์ดาวน์ครั้งนี้ จะมี 3 ปรากฏการณ์ใหญ่คือ มหาปรากฏการณ์พลุเฉลิมฉลองระดับโลกกับการแสดงพลุรักษ์โลกที่ยาวถึง 1,400 เมตร ยาวที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยผู้กำกับพลุมือรางวัลจากประเทศญี่ปุ่น ภายใต้แนวคิด “Celebrating the Everlasting Legacy of Siam เฉลิมฉลองมรดกไทยอันรุ่งโรจน์นิรันดร์” โดยรัศมี 5 กม. จะสามารถรับชมพลุ ซึ่งสะท้อนถึงสีสันและความงดงามของมรดกและภูมิปัญญาไทย

ถัดมาเป็นมหาปรากฏการณ์สะกดโลกจากสุดยอดศิลปินไอคอนิค อย่าง ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล ศิลปินไอคอนิคระดับโลก ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ที่จะมาร่วมเคาต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เพื่อนำเสนอความเป็นไทยสู่เวทีโลก พร้อมด้วยปรากฎการณ์ของศิลปินกว่า 60 ชีวิต ซึ่งปีนี้ได้เพิ่มศิลปินนักร้องนักแสดงชาวจีน “เว่ยเจ๋อหมิง” มาร่วมในวันเคาต์ดาวน์ด้วยเพื่อให้นักท่องเที่ยวและคนไทยได้มาร่วมสนุกสนานกัน และมั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ โรงแรม บริเวณโดยรอบไอคอนสยาม อย่างโรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพ และโรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพ เป็นต้น ล่าสุดยอดจองห้องพักในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ เต็มกว่า 95% แล้ว ตลอดจนร้านอาหาร ร้านค้า หรือแม้แต่ดินเนอร์ครุยส์ ตลอดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาก็มีการจองค่อนข้างเต็มแล้ว ซึ่งมั่นใจว่าการจัดงานครั้งนี้จะกระจายรายได้ให้ทุกภาคส่วน

“โดยการจัดงานครั้งนี้เราคาดหวังจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะให้ต่างชาติได้เห็นความสวยงามของประเทศไทย ทั้งนี้อยากเชิญชวนคนไทยมาร่วมรับความสุขและแสดงพลังต้อนรับนักท่องเที่ยวซึ่งไอคอนสยามได้เตรียมพร้อมทั้งความบันเทิง การจับจ่ายใช้สอย และสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากพันธมิตรด้วย”

พร้อมกับคาดหวังว่าจะมียอดผู้ร่วมงานและชมการถ่ายทอดสดรวมกับการถ่ายทอดผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่า 30 ล้านคนทั่วโลกและมั่นใจว่างานเคานต์ดาวน์ประเทศไทยในครั้งนี้จะติดอันดับ Top 5 ของโลก ซึ่งในขณะนี้ได้รับการติดต่อจากสำนักข่าวและ KOL ชื่อดังจากหลายประเทศเพื่อทำข่าวมหาปรากฎการณ์ในครั้งนี้สู่สายตาชาวโลกแล้ว

น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ขับเคลื่อนการทำงานร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร หน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น Word Class Event Hub ด้วยการยกระดับเทศกาลงานประเพณีไทยสู่งานเทศกาลระดับโลก หรือ Local to Global จัดเฟสติวัลหลากหลายรูปแบบ รวมถึงดึงงานอีเวนต์ ดนตรี กีฬา ระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ให้เกิดการขยายวันพัก เพิ่มการใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจสร้างรายได้และสร้างชื่อเสียงภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไปสู่สายตา นักท่องเที่ยวทั่วโลก

โดยล่าสุดประเทศไทย ถูกจัดอันดับให้เป็น Destination Of the Year 2025 รวมถึง การจัดงานAmazing Thailand Countdown 2025 ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือของพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้เป็นแลนมาร์กและสัญลักษณ์ของประเทศไทยในการเป็น “Global Countdown Destination” ระดับโลก ททท.

ขณะที่นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่านับเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเมืองได้อย่างเป็นรูปธรรม งาน Countdown ที่ไอคอนสยามเป็นงานประจำปีที่มีชื่อเสียงระดับโลกสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร อีกทั้งเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานครในช่วงปลายปี การจัดงานนี้เป็นการรวมพลังจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนซึ่งประโยชน์ก็จะอยู่กับประชาชน เมือง และประเทศ ทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ในฐานะเป็นพันธมิตรในการจัดงาน ได้ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมงาน โดยได้ให้การสนับสนุนรถดับเพลิง เรือดับเพลิง รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ประจำจุดเฝ้าระวังโดยรอบพื้นที่การจัดงาน เพื่อเตรียมความพร้อมในการระงับเหตุได้ทันท่วงที เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานได้เฉลิมฉลองได้อย่างสบายใจ มีความสุขและปลอดภัย

ขณะที่นายกฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลสำคัญที่สามารถสร้างรายได้ให้กับภาคการท่องเที่ยว และกระจายรายได้ไปยังทุกภาคส่วน จากการคาดการณ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 20% หรือประมาณ 12 ล้านคน และสร้างรายได้ให้กับประเทศถึง 652,826 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 29% ยิ่งตอกย้ำถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยหอการค้าไทยพร้อมที่จะร่วมมือ กับทุกภาคส่วนในการผลักดันให้การจัดงานครั้งนี้ได้สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการจัดงานระดับโลก ซึ่งจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนั้นยังช่วยสนับสนุนเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ตลอดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน