นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พุทธศักราช 2489 ครั้งที่ 1/2568 ว่า รัฐบาลมีนโยบายที่จะเปิดเสรีการค้าข้าว ปลดล็อก และทำลายการผูกขาดการค้าข้าวในปัจจุบัน ซึ่งน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศในวันที่มอบนโยบายชัดเจน โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการตามนโยบาย
ที่ประชุมมีมติให้มีการปรับปรุงกฎระเบียบการขออนุญาติประกอบการส่งออกข้าวสำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย จำนวน 2 เรื่อง คือ 1.ปรับปรุงเงื่อนไขสต็อกข้าวสารของผู้ส่งออก โดยกำหนดให้กลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องทำการสต๊อกข้าวสารหากจะมีการส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศ ส่วนผู้ประกอบการส่งออกทั่วไป ที่มีทุนจดทะเบียน 5-10 ล้านบาท ได้ปรับลดปริมาณที่ต้องสต๊อกเหลือ 100 ตัน จากเดิม กำหนดให้สต๊อก 500 ตัน โดยจะมีผลบังคับใช้ภายใน 24 ม.ค. 2568 และ 2.ปรับปรุงค่าธรรมเนียมหนังสืออนุญาตให้ผู้ประกอบการส่งออกข้าว
โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์ ที่เป็นผู้ส่งออกทั่วไป ได้ประกาศ ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมหนังสืออนุญาติส่งออก จากเดิมที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมฉบับละ 50,000 บาท และ 2.กลุ่มผู้ประกอบการส่งออก แบ่งแยกตามทุน จดทะเบียน โดยผู้ประกอบการส่งออก ที่มีทุนจดทะเบียน 5-10 ล้านบาท ได้รับการปรับลดค่าธรรมเนียม เหลือฉบับละ 10,000 จากเดิม ฉบับละ 50,000 บาท และผู้ประกอบการส่งออก ที่มีทุนจดทะเบียน 10-20 ล้านบาท ได้รับการปรับลดค่าธรรมเนียมเหลือฉบับละ 30,000 บาท จากเดิม 50,000 บาท
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประกอบการส่งออกข้าวสารบรรจุกล่องหรือหีบห่อที่ไม่จำกัดทุนจดทะเบียน ได้รับการปรับลดค่าธรรมเนียมเหลือฉบับละ 10,000 บาท จากเดิม 20,000 บาท หลังจากนี้จะต้องหารือรายละเอียดร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาคาดว่า ครม.จะพิจารณ่อนุมัติและมีผลบังคับใช้ได้ภายในมี.ค. 2568
“รัฐบาลต้องการสร้างผู้ส่งออกรายใหม่ๆ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็ก อย่างเกษตรกรและสหกรณ์ให้เข้ามามาในตลาดมากขึ้น จึงปรับปรุงกฎระเบียบไม่ต้องสต๊อกข้าวหากจะมีการส่งออกข้าว รวมทั้งยังได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตฉบับละ 50,000 บาท ซึ่งช่วยลดต้นทุนให้กรรายย่อยส่งออกได้มากขึ้น”
นายพิชัย กล่าวว่า การยกเลิกการเก็บสต๊อกส่งออกข้าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาข้าวสารภายในประเทศ เนื่องจากผู้ประกอบการส่งออกส่วนใหญ่ในไทยเป็นธุรกิจรายใหญ่ซึ่งกฎหมายยังกำหนดให้มีการสต๊อกข้าวสารก่อนส่งออกตามปกติ มีเพียงส่วนน้อยที่ได้รับการยกเว้น
สำหรับการส่งออกข้าวไทยในปี 2567 ถือเป็นปีทองการส่งออกข้าวไทยคาดว่าจะส่งออกได้ราว 9.97 ล้านตัน ส่วนปีนี้ ตั้งเป้าหมายการส่งออกไว้ที่ 7.5 ล้านตัน ลดต่ำกว่าปีก่อน เนื่องจากอินเดียคู่แข่งสำคัญกลับมาส่งออกข้าวแข่งกับไทย