นายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด เปิดเผยว่า ในโอกาสครบรอบ 1 ปี กับความสำเร็จของ Binance TH จึงได้จัดงานใหญ่รับปี 2025 ต้อนรับตลาดกระทิงกับงาน “Street of the Future” Presented by BINANCE TH by Gulf BINANCE ที่สยาม สแควร์ ในวันที่ 18-19 ม.ค. 2568 เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงโปรเจ็กต์คริปโต เคอร์เรนซี (Crypto Currency) ระดับโลก สร้างเครือข่ายแห่งการสัมผัสเทคโนโลยี มากมายในวงการ Web3 (เทคโนโลยีที่กระจายศูนย์การควบคุม เช่น บล็อกเชน) ผ่านการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สาธิต และจำลองประสบการณ์จากพันธมิตรต่างๆ มากมาย
โดยปีนี้ Binance TH ตั้งเป้าหมายให้ความสำคัญ 3 เรื่องหลัก ได้แก่ การดูแลด้านความปลอดภัย ความโปร่งใส และคุณภาพการให้บริการ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง จากปีที่ผ่านมาจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยมากมายหลายประเทศที่ให้การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น ทำให้ปัจจุบันบิตคอยน์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลแรกของโลกสามารถไต่ขึ้นอันดับ 6 สินทรัพย์การเงินโลก ด้วยมูลค่ารวมสูงกว่า 1.95 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แซงหน้าสกุลเงินของทั้งสหราชอาณาจักรและสวิตเซอร์แลนด์
“ปีนี้เป็นปีแห่งโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับปีนี้เป็นปีแห่งโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของไทย ที่กำลังก้าวไปสู่ระบบการเงินยุคใหม่ที่สินทรัพย์ดิจิทัล จะกลายเป็นกระแสหลักของโลก ที่ผู้ใช้งานสามารถเป็นเจ้าของมูลค่าสินทรัพย์ได้อย่างอิสระและโปร่งใส พร้อมเปลี่ยนผ่านไปสู่ Web3 อย่างเต็มรูปแบบ Binance TH จึงร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างๆ จัดโครงการอบรมให้ความรู้เรื่องสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งเป้าหมายให้ความรู้บุคลากร 1 แสนรายภายในปีนี้ จากปีก่อนมีจำนวนกว่า 50,000 ราย เพื่อสร้างนักลงทุนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพและนักพัฒนาเทคโนโลยีเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศ”
นายนิรันดร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากรัฐบาลยิ่งผลักดันนโยบายภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ที่จะนำร่องใช้สินทรัพย์ดิจิทัลแทนเงินสดในการซื้อขายสินค้า ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมภายในปีนี้นั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดทั้งต่างชาติและคนไทยหันมาสนใจสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น
สำหรับภาพรวมการให้บริการของ BINANCE TH ในปีที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ใช้งานไทยลงทะเบียนเปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า และมียอดเทรดเพิ่มขึ้นถึง 30 เท่า โดยผู้ใช้งานประเภทบุคคลทั่วไปในประเทศคือกลุ่มที่มีสัดส่วนการลงทุนมากที่สุด และช่วงบิตคอยน์เข้าสู่ All-Time High เมื่อเดือนพ.ย. 2567 แตะที่มูลค่ากว่า 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ ต่อ 1 บิตคอยน์ ส่งผลให้มูลค่าตลาดสกุลเงินดิจิทัลเองก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 39.9% มีมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นหมุดหมายการเติบโตสำคัญของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะเป็นโอกาสด้านการเงินให้ทุกคน