นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยในเดือนธ.ค. 2567 กลับมาขยายตัวในรอบ 14 เดือน อยู่ที่ 7.8% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า ตลาดส่งออกสำคัญที่มูลค่าการส่งออกในเดือนธันวาคมขยายตัว ได้แก่ จีน 25.1% สหรัฐ 14.8% อินโดนีเซีย 55.9% ออสเตรเลีย 9.3% และเนเธอร์แลนด์ 72.6%
กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งดำเนินมาตรการดูแลราคาสินค้ามันสำปะหลัง โดยผลักดันทั้งการใช้ภายในประเทศและขยายตลาดส่งออก สำหรับตลาดในประเทศ ได้ร่วมกับหอการค้าไทยและสมาคมการค้าที่เกี่ยวข้อง ตั้งเป้ารับซื้อมันสำปะหลัง 2.5 ล้านตันหัวมันสด หรือคิดเป็น 1 ล้านตันมันเส้น ผลักดันเพิ่มการใช้มันสำปะหลังในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารสัตว์ ให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์หันมาปรับใช้มันเส้นในสูตรอาหารมากขึ้น
และได้เร่งดำเนินการเปิดจุดรับซื้อเพื่อสามารถเข้าซื้อผลผลิตได้ทันที ในส่วนของตลาดส่งออก ที่ผ่านมานายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ได้หารือกับนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ขอให้ผู้นำเข้าจีนช่วยรับซื้อมันสําปะหลังของไทยที่ผลผลิตกำลังทยอยออกสู่ตลาดมาก และยังได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลกประชาสัมพันธ์เดินหน้าหาตลาดให้สินค้ามันสำปะหลังของไทย ตลอดจนผลักดันให้มีการนำเข้าสินค้าแปรรูปจากมันสำปะหลังที่มีมูลค่าสูง เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกและดูแลเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังให้ทันต่อสถานการณ์ ส่งผลให้การส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังจากไทยไปจีนในเดือนธันวาคม ขยายตัว 25.1% และการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยในภาพรวม ขยายตัว 7.8%
ทั้งนี้ ผลผลิตมันสำปะหลังปี 2568 ที่เริ่มทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่ช่วงเดือนต.ค. 2567 จะมีช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเร่งแก้ไขปัญหาด้านราคาให้แก่เกษตรกร ทั้งเพิ่มการใช้ภายในประเทศ รวมทั้งเร่งเดินหน้าขยายตลาดส่งออก เจาะตลาดในอุตสาหกรรมใหม่ที่สามารถใช้ผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบ โดยเมื่อต้นเดือนม.ค. กรมการค้าต่างประเทศ ได้จัดคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนเดินทางไปขยายตลาดผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทยที่เซี่ยงไฮ้ และเฉิงตู เน้นอุตสาหกรรมขั้นปลายที่มีศักยภาพ เช่น อุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมกาว และอุตสาหกรรมกระดาษ
สำหรับภาพรวมปี 2567 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเป็นมูลค่า 3,133.4 ล้านเหรียญสหรัฐ 110,276 ล้านบาท หดตัว 15.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมูลค่าการส่งออกแป้งมันสำปะหลัง และเด็กตริน/โมดิไฟด์สตาร์ชอื่นๆ ขยายตัว 8.2% และ 1.8% ตามลำดับ ในส่วนของมันสำปะหลังอัดเม็ด/มันเส้น และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอื่นๆ อาทิ สาคูจากแป้งมันสำปะหลัง กากมันสำปะหลัง มูลค่าการส่งออกหดตัว 59.3% และ 25.6% ตามลำดับ
สำหรับตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่สำคัญของไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. จีน (สัดส่วน 51.4% ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทั้งหมด) 2. ญี่ปุ่น (สัดส่วน 9.4%) 3. อินโดนีเซีย (สัดส่วน 7.4%) 4. ไต้หวัน (สัดส่วน 5.1%) 5. และมาเลเซีย (สัดส่วน 4.1%) ตามลำดับ
