พาณิชย์ เผยเงินเฟ้อ ม.ค.พุ่ง1.32% ทำนิวไฮสูงสุดในรอบ 8 เดือน
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผอ.สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(เงินเฟ้อ) เดือน ม.ค. 2568 ว่า สูงขึ้น1.32 % เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน ถือว่าสูงสุดในรอบ 8 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และราคาสินค้าอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะผลไม้สด เครื่องประกอบอาหาร และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์
โดยหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ราคาสูงขึ้น 1.78 % เช่น มะม่วง ข้าวราดแกง กาแฟผงสำเร็จรูป ข้าว เป็นต้น ขณะที่หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ราคาสูงขึ้น 1.00% เช่น น้ำมันดีเซล แก๊สโซฮอล์ เบนซิน ค่ากระแสไฟฟ้า เป็นต้น
“แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนก.พ. 2568 คาดว่าจะอยู่ระดับใกล้เคียงกับเดือน ม.ค. โดยไตรมาสแรกปีนี้เงินเฟ้ออาจจะอยู่ที่ 1.1-1.2% ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ยังคงคาดการณ์ว่าทั้งปี 2568 จะอยู่ระหว่าง 0.3 – 1.3% โดยมีค่ากลางอยู่ที่ 0.8% ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ”
นายพูนพงษ์กล่าวว่ากรณีการตัดไฟฟ้าเมียนมาเพื่อแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น ทูตพาณิชย์และพาณิชย์จังหวัดแจ้งว่าการส่งสินค้าข้ามสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมายังเป็นปกติจึงยังไม่มีนัยสำคัญกระทบต่อต่อเงินเฟ้อของไทย
อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อทั้งปีนี้อาจจะไม่เป็นไปตามเป้า อาจสูงหรือต่ำกว่าเป้าหมาย โดยกรณีสูงขึ้นอาจมีปัจจัยเสี่ยงเช่น เพดานราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 33 บาทต่อลิตรที่สูงกว่าปีก่อน ,การฟื้นตัวภาคท่องเที่ยวทำให้สินค้าและบริการปรับขึ้นราคา โดยเฉพาะค่าโดยสารเครื่องบิน และราคาสินค้าเกษตรบางชนิดยังสูง ส่วนปัจจัยสนับที่อาจนุนให้เงินเฟ้อลดลง เช่น ภาครัฐออกมาตรการลด ค่าไฟ ก๊าซ LPG ,ราคาผักสดปีนี้ลดลง และ มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ รองรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
