ตลาดหุ้นไทยคึกคัก เดือนมิ.ย. ยอดซื้อเฉลี่ย 7.7 หมื่นล้านบาท สูงสุดในรอบ 30 เดือน – แรงซื้อจากนักลงทุนในประเทศ แต่ครึ่งปีแรกต่างชาติขายแล้ว 2 แสนกว่าล้าน

ตลาดหุ้นไทยคึกคัก – นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทย (SET Index) ในเดือน มิ.ย.2563 ค่อนข้างทรงตัว แต่มูลค่าซื้อขาย เฉลี่ยรายวันมีความคึกคักมาก โดยเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 77,359 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงสุดในรอบ 30 เดือน อีกทั้งสูงสุดเป็นอันดับสองในประวัติการณ์ ส่งผลให้ในครึ่งแรกของปี 2563 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 68,617 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการซื้อขายมาจากผู้ลงทุนในประเทศเป็นหลัก โดยในเดือนมิ.ย. มีสัดส่วนการซื้อขายสูงกว่าผู้ลงทุนประเภทอื่นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 อยู่ที่ 48.76% ของมูลค่าการซื้อขายรวม

นอกจากนี้ เริ่มเห็นสัญญาณความเชื่อมั่นที่ดีขึ้น สังเกตจากผู้ลงทุนต่างชาติที่มีแนวโน้มขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทยลดลงและกลับมาเป็นผู้ซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ อีกทั้งบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์กลับมามีกิจกรรมการระดมทุนในตลาดแรก และเริ่มทยอยนำหุ้น IPO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ของไทย ยังคงเป็นผู้นำของภูมิภาคในด้านมูลค่าระดมทุนในตลาดแรก (IPO) ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563

สำหรับตลาดหุ้นไทย SET Index ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2563 ปิดที่ 1,339.03 จุด ลดลง 0.3% จากเดือนก่อน และลดลง 15.2% จากสิ้นปี 2562 แต่หากพิจารณาผลตอบแทนในสกุลเงินดอลลาร์จะเพิ่มขึ้น 2.8% และลดลง 17.8% ตามลำดับ ทั้งนี้เมื่อพิจารณาหุ้นในรายอุตสาหกรรมเทียบกับสิ้นปีก่อน พบว่าเกือบทุกอุตสาหกรรมปรับตัวดีกว่า SET Index ยกเว้น กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลต่อปัญหาหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ที่จะเกิดขึ้น

โดย ณ สิ้นมิ.ย. ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 22,381 ล้านบาท ในตลาดหลักทรัพย์ไทย ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดอื่นในภูมิภาค ทำให้ในครึ่งแรกปี 2563 ผู้ลงทุนต่างประเทศเป็นผู้ขายสุทธิ 215,736 ล้านบาท ขณะที่ผู้ลงทุนกลุ่มอื่นเป็นผู้ซื้อสุทธิ สำหรับราคาหุ้นต่อความสามารถในการทำกำไรในอนาคต (Forward P/E) และ ราคาหุ้นต่อความสามารถในการทำกำไรในอดีต ( Historical P/E) ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือน มิ.ย.2563 อยู่ที่ระดับ 20.5 เท่า และ 18.7 เท่าตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 15.5 เท่า และ 16.0 เท่าตามลำดับ ส่วนอัตราเงินปันผลตอบแทน อยู่ที่ระดับ 3.70% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.15%

อย่างไรก็ดีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และ บมจ. ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จะหยุดทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ เนื่องในวันหยุดชดเชยวันสงกรานต์ประจำปี พ.ศ. 2563 ซึ่งเป็นไปตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน