นายอัลเจอร์ ฟัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย เปิดเผยว่า เอไอเอ เป็นผู้ดำเนินธุรกิจประกันชีวิตในไทย ปัจจุบันมีตัวแทนและเครือข่ายมากกว่า 50,000 ราย มีลูกค้ามากกว่า 5 ล้านคน และมีกรมธรรม์มากกว่า 8 ล้านฉบับ นอกจากนี้ยังมีตัวแทนที่มีใบอนุญาตทางด้านที่ปรึกษาการเงินและนักวางแผนการเงินส่วนบุคคล (IC License) มากกว่า 10,000 ราย ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประเทศไทย ทำให้สามารถช่วยเหลือลูกค้าในการวางแผนทางการเงินผ่านทางกรมธรรม์ยูนิตลิงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยที่ผ่านมายังมีทีมบริหารการลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ ทำให้เห็นศักยภาพในการบริหารสินทรัพย์ของเอไอเอประเทศไทย ทำให้ล่าสุด เอไอเอได้ตัดสินใจ เปิด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.เอไอเอ ตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมา พร้อมกับโอนทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการของเอไอเอ ประกันชีวิต มูลค่า 8.47 แสนล้านบาท เพื่อให้บลจ.เอไอเอ บริหารจัดการลงทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และถือว่าใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย

ด้านนายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “บลจ.เอไอเอ ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารจัดการสินทรัพย์ของเอไอเอ ประเทศไทย และเงินลงทุนในกองทุนรวมจากกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์) ของเอไอเอ ประเทศไทย เพื่อให้บริการด้านการลงทุนและผลประโยชน์ให้แก่ลูกค้า บริหารจัดการสินทรัพย์ผ่านความชำนาญและประสบการณ์ระดับโลก พร้อมการนำเทคโนโลยีการลงทุนที่มีความปลอดภัยสูงสุดมาใช้ในการทำงาน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับผู้ลงทุน โดย บลจ.เอไอเอ ประเทศไทย จะเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้น ด้วยการขยายช่องทางในการลงทุนระดับสากล ผ่านเครือข่ายการลงทุนทั่วโลกและพันธมิตรทางธุรกิจ

ทั้งนี้ บลจ.เอไอเอ ประเทศไทย ได้จัดตั้งกองทุนรวมจำนวน 9 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนรวมที่ลงทุนในประเทศ 5 กองทุน และกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ 4 กองทุน โดยเน้นการลงทุนเพื่อผลตอบแทนในระยะยาว ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการบริหารความเสี่ยงในด้านต่างๆ อย่างรอบคอบ โดยเบื้องต้น บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) ได้เปิดตัวกองทุนรวมในประเทศ 5 กองทุน และสำหรับกองทุนรวมต่างประเทศจะมีการเปิดตัวในเร็วๆ นี้


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน