ปิดที่ 1,390.13 จุด ปรับตัวลดลง -4.01 จุด คิดเป็น -0.29% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,393.62 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,384.25 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 44,374.73 ล้านบาท

 

ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 882.86 จุด ปรับตัวลดลง -4.10 จุด

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 0.20% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงกว่า 2% ซึ่งฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานอ่อนแรงลงด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี NASDAQ และ S&P 500 ปิดในแดนบวก เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด

 

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันและราคาโลหะฟื้นตัว ขณะที่เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์

 

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดแทบจะทรงตัว 0.02% แม้ว่า จะเริ่มมีการคาดการณ์เกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมหลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อจีนอยู่ในระดับทรงตัว

 

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดทะยานขึ้นกว่า 2.15% เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นได้ออกมาย้ำว่า ญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงตลาดหากเงินเยนแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง

 

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

 

1. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,013.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.25 บาท คิดเป็น +2.66%
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,649.65 ล้านบาท ลดลง -5.00 บาท คิดเป็น -1.67%
3. IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,561.84 ล้านบาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -1.74%
4. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,393.34 ล้านบาท ลดลง -2.00 บาท คิดเป็น -1.23%
5. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,364.61 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน