นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารอยู่ในระหว่างการดำเนินงานตามแผนธุรกิจระยะกลาง 3 ปี (2564-2566) เพื่อไปสู่การเป็นธนาคารแห่งภูมิภาคอาเซียน พร้อมวางเป้าหมายภายในปี 2566 จะมีสัดส่วนรายได้ และกำไรจากต่างประเทศอยู่ที่ 10% เพิ่มจากจากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 4% ภายใต้พื้นฐานธุรกิจของธนาคารกรุงศรีอยุธา ที่ได้เริ่มขยายการลงทุนไปแล้วครอบคลุม 5 ประเทศในอาเซียน ทั้งสปป.ลาว กัมพูชา ฟิลลิปปินส์ เมียนมา

และล่าสุดเมื่อเดือนส.ค. ธนาคารกรุงศรีฯ ยังได้บรรลุข้อตกลงกับ Saigon-Hanoi Commercial Joint Stock Bank (“SHB”) ธนาคารพาณิชย์ร่วมทุนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ในประเทศเวียดนาม ที่ให้บริการสินเชื่อเพื่อรายย่อย 10 อันดับแรกของประเทศเวียดนาม ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง

ในขณะเดียวกันก็ยังมองหาโอกาสการลงทุนอื่นๆ เพิ่มเติมทั้งในรูปแบบของการขยายการให้บริการทางการเงินและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และการขยายการลงทุน โดยอาศัยจุดแข็งจากการที่มี มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่มีเครือข่ายแข็งแกร่งจากการมรสาขาธนาคารกว่า 250 แห่ง ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก โดยมีสาขา 20 แห่งในอาเซียน และมีการลงทุนกลุ่มธุรกิจธนาคารใน 3 ประเทศ ธนาคารดานามอน ประเทศอินโดนีเซีย เอสบี ไฟแนนซ์ ประเทศฟิลลิปปินส์ และ ธนาคารเวียดติน ประเทศเวียดนาม ทำให้กรุงศรีฯ สามารถนำพาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตให้กับลูกค้าของกรุงศรีฯ ในภูมิภาคอาเซียนด้วยเช่นกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน