ดัชนีร่วงลงต่อเนื่องทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค

สรุปภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยวันที่ 13 ธ.ค. 2566 วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่อง ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยคืนที่ผ่านมาสหรัฐ รายงาน CPI ออกมาใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด แต่จากข้อมูล FedWatch Tool บ่งชี้ว่านักลงทุนเพิ่มน้ำหนักกับการคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. 2567 เป็นการลดน้ำหนักจากคาดการณ์เดือน มี.ค. 2567 ประกอบกับธปท. มีการปรับ GDP ปี 2567 ลง จากเดิมคาดโต 4.4% เป็น 3.8% (รวมนโยบาย Digital Wallet) ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,357.97 จุด -15.95 จุด -1.16% มูลค่าการซื้อขาย 37,984.99 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,365 ล้านบาท -1.75, (-3.32%)
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,709 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
3. BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,495 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
4. BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,360 ล้านบาท -2.00, (-1.33%)
5. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,300 ล้านบาท -0.50, (-0.84%)

ดัชนีอ่อนตัวลงต่อพร้อมสร้าง Lower Low อีกทั้งมีแรงขายในหุ้น MKT Cap ขนาดใหญ่ อาทิ BANK FINANCE ICT และ PETRO สอดคล้องกับ Fund Flow นักลงทุนต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่องเป็นปัจจัยกดดันต่อการรีบาวด์ หลังหลุดแนวรับ 1,370 จุดลงมามีโอกาสปรับตัวลงต่อ

คำแนะนำ แนะนำ Wait&See หลังหลุด 1,370 จุดลงมา

บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด