น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยดัชนียังเผชิญแรงขายทำกำไรบริเวณแนวต้านสำคัญที่ 1,500 จุด แม้ว่าภาพเศรษฐกิจไทยช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้มีโอกาสฟื้นตัวจากเงินเฟ้อชะลอตัวและอัตราดอกเบี้ยขาลง รวมทั้งการเข้าสู่ไฮซีซั่นในช่วงปลายปี
แต่จากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบ WTI กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน และศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์จัดทำดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลในช่วงไตรมาส 3 ปี 2567 พบว่า ความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับ 45.1 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 2 ซึ่งอยู่ที่ 45.2 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลง จึงมองกรอบดัชนีที่ระดับ 1,450-1,500 จุด
ส่วนภาวะเศรษฐกิจจีนในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2567 ขยายตัว 4.8% ต่ำกว่าเป้าหมายเศรษฐกิจของปีนี้ที่ตั้งไว้ประมาณ 5% และที่สำคัญรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทจีนที่พัฒนาและผลิตอาวุธให้กับรัสเซียโดยตรงเพื่อใช้ทำสงครามกับยูเครน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกสำหรับการคว่ำบาตรบริษัทจีน ขณะที่ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนประกาศว่า การทำสงครามกับอิสราเอลกำลังเข้าสู่ช่วงใหม่ที่ทวีความรุนแรงยิ่งกว่าเดิมหลังการสังหารผู้นำกลุ่มฮามาส
ด้านปัจจัยในประเทศที่ยังคงต้องจับตาต่อ สัปดาห์ที่ 4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์, กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย, สัปดาห์ที่ 5 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค, สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม, 30 ต.ค. รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ, 31 ต.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ส่วนสถานการณ์ต่างประเทศที่น่าจับตาวันนี้ 22 ต.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีการผลิตเดือนต.ค., วันที่ 23 ต.ค. สำนักข่าว CNN จัดโต้วาทีครั้งที่ 2 สำหรับผู้เข้าชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐ, สหรัฐ รายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย. และสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์เช้าวันที่ 24 ต.ค., เฟด รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) 24 ต.ค., ญี่ปุ่น รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการขั้นต้นเดือนต.ค., สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนก.ย. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการขั้นต้นเดือนต.ค.
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กงน.) ครั้งที่ 5/2567 เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2567 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 2.50% เป็น 2.25% ต่อปี โดยให้มีผลทันที ได้แก่ MTC, SAWAD, TIDLOR, GULF, GPSC, BGRIM, SIRI, SC และ SPALI
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินแนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย. และ ธ.ค. ครั้งละ 0.25% รวมเป็น 0.50% ภายในปี 2567 ประกอบกับความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น หลังอิสราเอลยืนยันการเสียชีวิตของผู้บัญชาการฮิซบอลเลาะห์ และผู้นำกลุ่มฮามาส หนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย มองกรอบทองคำสัปดาห์นี้ 2,680-2,750 $/Oz จึงแนะนำเก็งกำไรในกรอบราคาดังกล่าว