เพื่อไทย ยื่น “สุดารัตน์-ชัชชาติ-ชัยเกษม”แคนดิเดตนายกฯ พร้อม 97 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ “ชัชชาติ”ไม่น้อยใจพรรคไม่ส่งบัญชีรายชื่อเข้าใจไม่ถนัดงานนิติบัญญัติ ย้ำ ไม่ได้มาเล่นๆ
ชัชชาติ แคนดิเดตนายกฯ ปาร์ตี้ลิสต์ – เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีสมาชิกพรรคเพื่อไทย ไทยรักษาชาติ ได้เดินทางมารวมตัวที่สำนักงาน กกต. เพื่อยื่นสมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ จากนั้นในเวลา 08.30 น.
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายชัยเกษม นิติสิริ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้เข้ายื่นเอกสารสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ รวม 97 รายชื่อ พร้อมรายชื่อแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี 3 รายชื่อ โดยภายหลังการยื่นบัญชีรายชื่อ คุณหญิงสุดารัตน์ ได้เดินทักทาย กับแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ อาทิ นายสุธรรม แสงปทุม นพ.เหวง โตจิราการ
นายภูมิธรรม เวชยชัย กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ผู้สมัครของพรรคได้รับหมายเลขแตกต่างกัน จึงขอให้ประชาชนจดจำโลโก้พรรคเพื่อนำไปใช้ลงคะแนน ในส่วนของเพื่อไทยส่งส.ส.ลงสมัครแบบแบ่งเขตจำนวน 250 คน
แบ่งเป็นภาคเหนือ 50 คน ภาคกลาง 55 คน ภาคอีสาน 112 ภาคใต้ 10 และ กทม. 23 คน
โดยพรรคมีมติให้ส่งสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจำนวน 97 คน ในจำนวนดังกล่าว ไม่มีชื่อนายชัชชาติเพราะพรรคต้องการให้ทำงานด้านบริหาร และนายชัชชาติก็เป็น 1 ใน 3 ของผู้ที่พรรคเสนอชื่อเป็นนายกฯ รวมถึงคุณหญิงสุดารัตน์ และ นายชัยเกษม
เมื่อถามว่าการส่งสมัครไม่ครบทุกเขต เป็นการฮั้วกันระหว่างพรรคการเมืองหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยืนยันไม่ได้เป็นการฮั้วกัน เนื่องจากมีผู้ลงแข่งขันมากกว่า 5,000 คน ผู้สมัครทุกคนถือเป็นคู่แข่งกัน
เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นฝ่ายบริหารจะวางบทบาทของนายชัชชาติอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า คงเร็วเกินไปที่จะตอบ เพราะยังไม่มีใครรู้ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ไม่มีรายชื่ออยู่ใน บัญชีผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ว่า เป็นมติของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งตนเคยได้แจ้งไปแล้วว่าไม่ถนัดงานด้านนิติบัญญัติ น่าจะมีคนเก่งๆของพรรคที่เชี่ยวชาญมากกว่า พรรคก็เห็นด้วยกับสิ่งที่เราแจ้งไป
และการเลือกตั้งครั้งนี้ มีกฎระเบียบใหม่ออกมา จะทำให้ได้จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อน้อยลง และเราน่าจะได้ ส.ส.เขตจำนวนมาก เชื่อว่าพรรคมีคนเก่งที่จะมาร่วมงาน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะอยู่ในบัญชีรายชื่อ อาจจอยู่ในบัญชีของนายรัฐมนตรีก็พอแล้ว ซึ่งเรื่องการช่วยงานพรรคก็อยู่สามารถช่วยด้านบริหาร นโยบายได้ บทบาทของพรรคไม่ใช่เป็นแบบคนใดคนหนึ่ง ทำงานเป็นทีม
“ผมคิดว่า จะทำให้ดีที่สุด เพราะผมก็เต็มตัว ลาออกจากงานมาเลย คือไม่ใช่มาเล่นๆ ยอมทิ้งงานทุกอย่าง ซึ่งเรารู้ว่าเราเก่งตรงไหน ไม่เก่งตรงไหน ซึ่งเชื่อว่าทางพรรคเองก็ได้พิจารณาแล้ว ไม่ต้องไปมองไกลถึงอนาคต อยู่ตรงนี้ก็สามารถช่วยได้ในทุกบทบาท” นายชัชชาติ กล่าว
เมื่อถามว่าถ้าหลังเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เป็นฝ่ายบริหารจะตัดสินใจ ทางการเมืองใหม่อย่างไร นายชัชชาติ กล่าวว่า อาจจะสมัครผู้ว่า กทม.ซึ่งมีทางเลือกอีกมาก มีหลายบทบาท ยืนยันไม่น้อยใจ และไม่ว่าอย่างไรก็อยู่กับพรรคเพื่อไทยแน่นอน เพราะอุดมการณ์ไปด้วยกันได้
ส่วนที่มีการมองว่าไม่อยากเปลืองตัวทางการเมือง นายชัชชาติ กล่าว ว่า ตนลงมาเต็มตัวตลอด ไปมาหลายจังหวัดแล้ว คงไม่มีอะไรมากไปกว่านี้แล้ว ทั้งลาออกทั้งทุกอย่าง ลงมาเต็มตัวเต็มที่แล้ว อย่างที่บอกมีหลายบทบาท ซึ่งเราไม่ต้องเล่นทุกบทบาทเอาที่เรามีความสามารถดีกว่า
