อนาคตใหม่ มั่นใจ! ธนาธร เป็นนายกฯ ลั่นแคนดิเดตทุกคนต้องเสมอภาค-โต้แย้งได้

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 8 พ.ค. ที่ชั้น 7 อาคารไทยซัมมิท ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ร่วมแถลงถึงจุดยืนของพรรคอนาคตใหม่ หลังจากนั้นได้เปิดให้สื่อมวลชนซักถาม

เริ่มจากคำถามถึงจุดยืนในการร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นายปิยบุตร กล่าวว่า เรายืนยันจุดยืน 3 ข้อหลัก คือ 1.ยุติการสืบทอดอำนาจของคสช. 2.แก้รัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งฉบับ 3.ล้มล้างผลพวงของการทำรัฐประหารของคสช.

เหล่านี้ คือปัจจัยที่จะตัดสินใจว่าเราจะร่วมงานกับใครหรือไม่ เรายืนยันตามหลักการนี้ และจะเสนอชื่อ นายธนาธร เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แต่ตอนนี้ผลการเลือกตั้งยังไม่ออก จึงยังไม่มีใครทราบ แต่เรามั่นใจว่าจะได้เสียงในสภา ด้วยจุดยืนที่มั่นคงในแนวทางประชาธิปไตยแบบนี้

 

“ปิยบุตร” เชื่อ ทูลกระหม่อมฯ ไม่ยึดอภิสิทธิ์

เมื่อถามว่าการเสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงฯ ของพรรค ทษช. ถือว่าเป็นการทำให้เกิดความไม่เสมอภาคในการแข่งขันหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้ต้องเป็นธรรม มีความเสมอภาคเท่าเทียม

“บุคคลใดที่เสนอตัวเข้ามาสู่แวดวงการเมืองแล้ว จะต้องถูกอภิปราย โต้แย้ง ถกเถียง เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นที่น่ายินดีที่ทูลกระหม่อมฯ เขียนในอินสตาแกรม ว่าท่านไม่นิยมชมชอบในเรื่องระบบอภิสิทธิ์ แสดงให้เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทุกคน ต้องถูกอภิปรายหรือโต้แย้ง ไม่ว่าเป็นใครก็ตาม เพราะเข้าสู่การแข่งขันในระบอบประชาธิปไตยแล้ว” นายปิยบุตร ระบุ

 

ย้ำจุดยืน ขวางคสช.-แก้รธน.-ล้างมรดกรัฐประหาร

เมื่อถามถึงจุดยืนกับพรรคการเมืองที่เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้เป็นส.ส. นายปิยบุตร กล่าวว่า เรายืนยันตามหลักการ 3 ข้อ และเรายังขอยืนยันหลักการ นายกรัฐมนตรีต้องมาจากส.ส. ขณะนี้ผลการเลือกตั้งยังไม่ออก เรายังมีเวลาอีกหลายวันที่จะรณรงค์แนวทางนี้

ต่อข้ถามว่าข่าวแคนดิเดตของทษช. เป็นข่าวใหญ่ไปทั้งโลก ทางพรรคคอนาคตใหม่มีความเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้ นายธนาธร กล่าวว่า ตราบใดที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ผ่านคุณสมบัติตามกฎหมาย เราก็ไม่มีปัญหา และสิ่งที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้ ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของการเมืองไทย

เมื่อถามย้ำว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า “คงต้องบอกว่า มันเปิดโอกาสและความเป็นไปได้ใหม่ของประชาชน”

 

“ธนาธร” ชี้ ไม่ต่างจากเซ็ตซีโร่ หมดยุคสีเสื้อการเมือง

เมื่อถามถึงความรู้สึกต่อทูลกระหม่อมหญิงฯ เป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคอนาคตใหม่มีจุดยืนอย่างไรต่อเรื่องนี้ นายธนาธร กล่าวว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการเซตซีโร่ สีเสื้อทางการเมืองที่ผ่านมาในอดีตไม่สามารถใช้อธิบายความขัดแย้งในสังคมไทยได้อีก นี่คือการเปิดโอกาสให้ประชาชนเลือกข้างทางการเมืองใหม่ และแตกต่างจากการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ เพราะการเลือกข้างทางการเมืองครั้งนี้มีพรรคอนาคตใหม่”

 

แซะจับตาปชป.แตะมือพชปร.

เมื่อถามว่า พร้อมจะร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า ถ้าตัดชื่อพรรค ชื่อคนออกไป เอาจุดยืนทางการเมืองของพรรคเราเป็นตัวตั้ง ถ้าพรรคไหนเอาด้วย เราพร้อมร่วมงานด้วย

ขณะที่นายปิยบุตร กล่าวว่า มีผู้สมัครสส.ของพรรคประชาธิปัตย์หลายคนพร้อมร่วมรัฐบาลกับพปชร. ซึ่งชัดเจนว่าไม่ตรงกับแนวทางของอนาคตใหม่ อย่ากังวลว่า ประชาธิปัตย์จะร่วมงานกับอนาคตใหม่หรือไม่ แต่ขอให้ไปกังวลว่าประชาธิปัตย์จะร่วมมือกับพปชร.หรือไม่ดีกว่า

เมื่อถามว่าการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ ทษช. จะนำไปสู่การปรองดอง หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า “อนาคตใหม่ไม่เชื่อว่า ประชาธิปไตยจะสร้างขึ้นด้วยการเจรจาต่อรอง ระหว่างกลุ่มชนชั้นนำเพียงอย่างเดียว แต่ประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและยั่งยืน ต้องมีประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างและออกแบบร่วมกัน ประวัติศาสตร์พิสูจน์หลายครั้งแล้วว่า ประชาธิปไตยที่สร้างโดยกลุ่มชนชั้นนำ เจรจาต่อรองกันเองนั้น ไม่ยั่งยืน”

เมื่อถามต่อว่าแสดงว่ากระบวนการที่เกิดขึ้นเป็นการเจรจาผลประโยชน์ หรือไม่ นายธนากร กล่าวว่า ตนไม่อาจทราบได้ว่ามีการเจรจาอะไรหรือไม่ แต่เรายืนยันว่านับแต่มีการตั้งพรรคมา ทางพรรคอนาคตใหม่ ไม่เคยมีการเจรจาต่อรองใดๆ กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายทักษิณ ชินวัตร

 

ขอคืนความปกติ หาเสียงเสมอภาคตามกฎหมาย มีมาตรฐาน

เมื่อถามอีกว่าชื่อแคนดิเดตนายกของ ทษช.จะทำให้กระบวนการหาเสียงอยู่ในความอึดอัดหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า สิ่งที่เราอยากเห็นคือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมทุกคน ทุกคนควรเสมอภาคกันต่อหน้ากฎหมาย และประชาชน

นายปิยบุตร กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้คือการนำการเมืองกลับสู่ความปกติอีกครั้ง หลังจากที่เราอยู่ในระบบพิเศษมานาน จึงอยากให้การรณรงค์การเลือกตั้งเป็นไปอย่างปกติ เหมือนกับนานาอารยประเทศ คือหาเสียงอย่างเต็มที่ไม่ว่าใครจะสนบัสนุนขั้วไหน ให้เสรีและเป็นธรรม ให้การเลือกตั้งได้มาตรฐานในการเปลี่ยนผ่านกลับสู่ประชาธิปไตยได้ เป็นเรื่องปกติของการเลือกตั้ง สื่อมวลชนอย่าทำให้เป็นเรื่องไม่ปกติ ยิ่งคำถามเหล่านี้เกิดขึ้นมากเท่าไร ความผิดปกติก็เกิดขึ้นมากเท่านั้น

 

ฉะ ถกตั้งรบ.ก่อนเลือกตั้ง ดูถูกประชาชน

เมื่อถามว่า มีพรรคใดทาบทามให้พรรคอนาคตใหม่ร่วมรัฐบาลแล้วหรือยัง นายปิยบุตรกล่าวว่า การเลือกตั้งจะส่งผลว่าประชาชนคือผู้มีอำนาจสูงสุดอย่างแท้จริง จะต้องเป็นการเลือกตั้งที่ไม่เกิดหลังจากการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลแล้ว เราไม่ควรเจรจาจัดตั้งรัฐบาลก่อน นั่นหมายถึงกำลังดูถูกประชาชน ต้องเลือกตั้งให้เสร็จก่อน แล้วผลเลือกตั้งจะเป็นตัวบอก

ด้านนายธนาธร กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นใน 2-3 วันที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนสมการการเมืองไปทั้งหมด แต่เรามั่นใจว่าพรรคอนาคตใหม่จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน