ปรากฏการณ์ใหม่!! ชาวนราธิวาสครึ่งหมื่น ฟังปราศรัย พรรคประชาชาติ ชี้ คนตื่นตัวการเมือง

ปรากฏการณ์ใหม่!! ชาวนราธิวาสครึ่งหมื่น ฟังปราศรัย พรรคประชาชาติ ชี้ คนตื่นตัวการเมือง ด้านพรรคพลังประชารัฐขึ้นเทียบ ผลจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

พรรคประชาชาติ – วันที่ 10 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อค่ำวันที่ 9 ก.พ. บรรยากาศการเดินสายปราศรัยหาเสียงของพรรคการเมือง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปอย่างคึกคัก

ในส่วนของพรรคประชาชาติที่นำโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วยนายกูเฮง ยาวอหะซัน ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาชาติ นราธิวาสเขต 3 เบอร์ 2 และกรรมการบริหารพรรค เดินพบปะพี่น้องประชาชนในตลาดนัดตันหยงมัส ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ท่ามกลางความตื่นเต้นของพี่น้องประชาชนที่มาร่วมต้อนรับกันอย่างอบอุ่น ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ได้เดินพูดคุยสอบถามพ่อค้าแม่ค้าเรื่องเศรษฐกิจและการค้าขาย ได้รับคำตอบว่าเศรษฐกิจไม่ดี รายได้ลดลง จึงฝากความหวังไว้กับพรรคประชาชาติจะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

ขณะเดียวกันพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย นายวรวีร์ มะกูดี รองหัวหน้าพรรค, นายอารีเพ็ญ อุตรสินธ์ รองหัวหน้าพรรค, พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ รองหัวหน้าพรรค และผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาชาติ เขต 1 นายมาหะมะรอปี เจ๊ะแว เบอร์ 3, เขต 2 นายสารี สะมะแอ เบอร์ 11, และนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ เบอร์ 1 ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดน้ำยะกัง อ.เมือง จ.นราธิวาส

จากนั้น เวลา 20.30 น. พรรคประชาชาติได้จัดเวทีปราศรัยใหญ่ในจ.นราธิวาส 2 จุด จุดที่หนึ่ง ที่หาดนราทัศน์ อ.เมือง และจุดที่สอง ที่สนามกีฬาจำปากอ อ.บาเจาะ โดยมีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจมาร่วมรับฟังไม่น้อยกว่า 3,000 ต่อหนึ่งเวที รวมทั้งสองเวทีไม่น้อยกว่า 6,000 คน นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ทางการเมืองของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีประชาชนให้ความสนใจกันจำนวนมาก

พ.ต.อ.ทวี ให้สัมภาษณ์ว่า บรรยากาศวันนี้ตนเชื่อว่าคนทั้งประเทศที่ได้รับชมการไลฟ์สด จะต้องรู้สึกแปลกใจเพราะว่าปกติ พอพูดถึงจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็จะมีคนมองว่า ยังมีอีกหรือที่จะมีการปราศรัยตอนกลางคืนเวลา 22.00 น. ภาพของจังหวัดชายแดนภาคใต้คือ ภาพของความไม่ปลอดภัย คนนอกจะคิดว่าเวลาตอนค่ำ ชาวบ้านจะอยู่ในบ้าน ไม่มีใครกล้าออกมา วันนี้ประชาชนทั้งประเทศได้เห็นและรู้สึกตกใจว่าทำไม มีผู้มา เข้าฟังการปราศรัยทางการเมือง มากเหลือเกิน

“เรื่องการเมืองเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนทุกคน การเมืองจะเกี่ยวของกับคนทุกรุ่น การเมืองจะเกี่ยวข้อง ตั้งแต่คลอดจากครรภ์มารดาไปถึงตายหรือไปกุโบร์ การเมืองไม่มีคนรุ่นใหม่หรือคนเก่า การเมืองจะไม่กำหนดว่าใครจะอายุเท่าไหร่ และที่สำคัญอย่างยิ่ง วันนี้การเมืองนอกจากจะเกี่ยวข้องกับผู้ที่มาทำหน้าที่การเมืองแล้วยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง” พ.ต.อ.ทวี กล่าว และว่า

พรรคประชาชาติ เป็นพรรคที่มาเปิดตัวในจ.ปัตตานี มาเปิดตัวในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คนก็เข้าใจว่าพรรคประชาชาติเป็นพรรค คน 3 จังหวัด แต่เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา เราได้ส่งผู้สมัคร จำนวนทั้งสิ้น 215 เขต ในสามจังหวัดมี 11 เขต และอีก 200 เขต มากที่สุดคืออีสาน กรุงเทพฯ 30 เขต เราส่งครบ ภาคเหนือ 27 เขต โดยเฉพาะคนภาคเหนือจะมีความรู้สึกเหมือนคนภาคใต้ ปัญหาของคนภาคเหนือ คือ คนบนยอดดอย ทั้ง 27 เขต จะมีปัญหา กลุ่มชาติติพันธ์ หรือ เป็นคนกลุ่มน้อย หรือเป็นคนที่ไม่ได้รับสิทธิเสรีภาพเท่ากับคนส่วนใหญ่

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า พรรคประชาชาติจึงเป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์สูงสุด เรามองว่ามนุษย์เป็นผู้มีความสำคัญ ดังนั้นมนุษย์ ไม่ว่าจะมีความแตกต่างทางด้านถิ่นกําเนิด ภาษาวัฒนธรรมประเพณี เพศ ชาติติพันธ์หรือศาสนาทุกคนต้องมีความเท่าเทียมกัน อยากให้พรรคประชาชาติเป็นพรรคของพวกเราทุกคนไม่ใช้เป็นพรรค คุณวันนอร์ ไม่ใช่เป็นพรรค ของตน แต่เป็นพรรคของพี่น้อง เพราะพรรคประชาชาติจะเป็นพรรคการเมืองที่จะคืนสิทธิ์ให้กับประชาชน และพรรคประชาชาติจะเป็นพรรคการเมืองที่จะคืนอำนาจให้ประชาชน พรรคประชาชาติจะเป็นพรรคการเมืองที่จะคืนความยุติธรรมให้ประชาชน พรรคประชาชาติเป็นพรรคที่แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำให้ประชาชน

“สำหรับการส่งผู้สมัครในสามจังหวัดภาคใต้ก่อนหน้านี้เรามีความมั่นใจว่าเราจะได้ 5 เขต แต่ตอนนี้เราเห็นความมั่นใจ ทั้ง 11 เขต เราน่าจะได้ ส.ส. ทั้งหมด เพราะว่าเราไม่ได้ใช้ความรู้สึกในการประเมิน แต่เราใช้วิธีการสำรวจทางการศึกษา พรรคประชาชาติ ไม่ได้เป็นที่นิยมเฉพาะตัวบุคคล เนื่องจากนโยบายเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชน ได้ประโยชน์ เราสร้างคน สร้างโครงสร้างองค์ความรู้ สร้างอาชีพ และสร้างชาติ เราเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เอาปัญหาความต้องการของประชาชนเป็นตัวตั้ง เพื่อมากำหนดนโยบาย เราเชื่อมั่นว่าในสามจังหวัดเราจะได้ ส.ส. ทุกเขต” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

สำหรับเวทีปราศรัยทั้งสองจุดในจังหวัดนราธิวาสนั้นเสร็จสิ้นในเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ แต่พี่น้องประชาชนยังคงนั่งฟังการปราศรัยจนจบ และได้เข้ามาจับมือโอบกอดผู้บริหารพรรคและผู้สมัคร ส.ส.กันอย่างอบอุ่น หลังเสร็จสิ้นปราศรัย

ขณะที่พรรคพลังประชารัฐที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนั่งชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เริ่มมีกระแสนิยมขึ้นเป็นอันดับสองในหลายพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการบัตรสวัสดิการของรัฐ ทำให้ผู้สมัครได้รับการตอบรับมาขึ้นเทียบกับผู้สมัครที่เคยเป็นแชมป์ของพื้นที่มาหลายสมัยได้อย่างง่ายดาย