“บิ๊กตู่” แนะ อย่าเลือกนักการเมืองพูดเก่ง แต่ทำไม่ได้ ไม่กล้าตอบ ร่วมดีเบตกับพรรคการเมือง อ้างขอศึกษากฎหมายก่อน ฝากประชาชน อะไรที่จบแล้ว ก็ขอให้จบกันไป

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตอบคำถามผู้สื่อข่าว รู้สึกกดดันหรือไม่ ที่ภายหลังพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอชื่ออยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรี ทำให้ตอนนี้เป็นตัวเต็งนายกฯคนต่อไป ว่า ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร เพราะทุกวันนี้ทำงานอย่างเต็มที่ โดยวันนี้ทำงานในหน้าที่นายกฯ และหัวหน้าคสช.อย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องการเมืองเป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่จะดำเนินการไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการวางตัวนับจากนี้นั้น ก็จะระมัดระวังให้มากที่สุด โดยจะปฏิบัติทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมายที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกฎหมายอื่นๆกำหนด ส่วนกิจกรรมต่างๆของรัฐบาล ก็จะดำเนินการต่อไป แต่ขอร้องอย่านำมาเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะถือเป็นคนละเรื่องกัน การเมืองเป็นเรื่องอนาคต การเลือกตั้งก็เป็นเรื่องของอนาคต เราจะกำหนดบทบาทของประเทศอย่างไร ซึ่งประชาชนต้องเรียนรู้จุดนี้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของ พปชร. ที่จะชูตนในการหาเสียงเลือกตั้ง ส่วนที่ประชาชนอยากเห็นตนร่วมหาเสียงด้วยนั้น ต้องตอบว่า วันนี้สามารถพบตนได้ทุกช่องทางอยู่แล้ว เพราะมาทำงานทุกวัน ไม่เคยหยุดราชการ อยู่บ้านก็ทำงาน แต่ขอร้องอย่าทำให้ทุกอย่างเป็นประเด็น ซึ่งตนก็พบปะประชาชนในหลายโอกาส ที่สามารถทำได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งได้สอบถามและหารือฝ่ายกฎหมายมาโดยตลอด

เกาะติดข่าวการเมืองข่าวเลือกตั้ง แค่กดเป็นเพื่อนกับไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงเรียกร้องอยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ ร่วมดีเบตกับแคนดิเดตนายกฯพรรคอื่นๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การร่วมดีเบตนั้น เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ซึ่งกฎหมายเขียนอย่างชัดเจน ว่าสามารถทำได้หรือไม่ ควรหรือไม่ควร เรื่องนี้ตนต้องพิจารณาให้รอบคอบ

“วันนี้ผมอยากฝากข้อคิดในการดีเบต อย่าเชื่อหรือฟังคนที่พูดเก่งอย่างเดียว แต่ความจริงกลับปฏิบัติไม่ได้หลายอย่าง เพราะกระทบต่อการใช้จ่ายงบประมาณ วิธีการทำงานก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีสภา กฎหมายการเงินการคลัง กฎหมายงบประมาณ การพูดว่าจะให้นั่นให้นี่ ข้อเท็จจริงแล้ว ตัวเลขนั้นทำไม่ได้ จะใช้งบจำนวนมากได้อย่างไร เพราะภาษีต่างมาจากคนทุกกลุ่ม แต่อยากให้มองผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นจริง จึงขอฝากข้อคิดกับประชาชน ผมไม่ได้เข้าข้างใคร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่าหลังเหตุการณ์วันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ควรมีผู้รับผิดชอบหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีความคิดเห็น เพราะเป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะดำเนินการ ทั้งนี้ สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ คนไทยทุกคนต้องระลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ท่านทรงให้แนวทางลงมายังรัฐบาล โดยทรงพระราชทานพระราโชบาย มาถึงรัฐบาลว่ารัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ประชาชนมีความสุข มีทางออก ทางเลือกในการทำสิ่งต่างๆให้ดีขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า และการแก้ปัญหาสังคม ต้องสร้างระเบียบวินัยของคนในชาติ ซึ่งตนตีความถึงการเคารพกฎหมายด้วย ต้องทำให้ทุกคนไม่มีผลกระทบต่อกันและกัน อีกเรื่อง คือการทำให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติพันธ์ โดยนำวัฒนธรรมและความเป็นมาของชาติไปเพิ่มมูลค่า โดยมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รับไปดำเนินการ

“ขอฝากถึงพี่น้องประชาชนอีกครั้ง อะไรที่จบแล้ว ก็ขอให้จบกันไป อย่าให้มีปัญหาต่อไปอีกเลย แต่วันนี้ก็ยังไม่พ้น เพราะยังมีคนโพสต์เรื่องต่างๆในโซเชียล เราต้องลดความขัดแย้งให้ได้มากที่สุด ฝากขอบคุณสื่อมวลชนทุกสำนักด้วย ขอให้มีการปรับตัว ผมเองก็ปรับตัวด้วย นักการเมืองและพรรคการเมืองทุกพรรค ก็ต้องปรับตัว ผมไม่ได้บอกว่าใครทำดีทำเลว แต่เราต้องปรับตัวเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าหน้า ด้วยความมั่นคง มั่งคั่ง ยังยืน ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องขอร้องทุกคน” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้นายกฯ ขอร้องคนทั้งประเทศทุกคน ไม่ว่าใครก็ตาม แม้จะมีการเลือกตั้ง แต่ต้องมุ่งไปที่ว่าประเทศชาติจะปลอดภัย ประชาชนมีความสุข คนในประเทศมีวินัย แก้ปัญหาการทุจริตผิดกฎหมาย เพราะไม่ว่าจะมีกฎหมายอย่างไร แต่ทุกอย่างก็อยู่ที่คน และใกล้จะถึงวันมาฆบูชาในวันที่ 19 ก.พ.นี้ จึงขอเชิญชวนทุกคน มาทำบุญกุศลร่วมกัน โดยทำความดีละเว้นความชั่ว ทำใจให้บริสุทธิ์ ซึ่งตนกำลังทำอยู่ ขอให้ทุกคนมาร่วมกันทำความดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน