“วิษณุ” ชี้ ดีเบต เป็นเรื่องดี แต่โยน “กกต.” ชี้ขาดว่าบิ๊กตู่ ขึ้นเวทีนั้นได้หรือไม่ ถ้าได้ขึ้นเวทีพูดได้แค่วิสัยทัศน์ส่วนตัว ห้ามเอ่ยชื่อ พปชร.

วันที่ 25 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการร่วมเวที ดีเบต ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. สามารถทำได้หรือไม่ว่า การที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุจะสอบถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถือเป็นการดี เพราะมีความไม่ชัดเจนอยู่ เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ ต่างจากแคนดิเดตนายกฯของพรรคอื่นที่เป็นผู้สมัคร ตรงนั้นจะไม่มีปัญหา

แต่คนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคไม่ได้เป็นผู้สมัคร อาจจะมีความหมิ่นเหม่อยู่ แต่ขณะนี้ตนไม่ทราบว่าพปชร.ถามไปหรือยัง และได้คำตอบแล้วหรือยัง ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าแคนดิเดตนายกฯ นายกฯ ควรรวมดีเบตนั้นไม่มีใครสงสัย เพราะใครๆ ก็อยากดู อยากฟัง ตนก็อยากด้วย

แต่ปัญหาคือมีข้อจำกัดสำหรับพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ และการที่พปชร.นำรูปพล.อ.ประยุทธ์ ไปขึ้นป้ายตามเวทีปราศรัย เพราะกกต.บอกว่าทำได้ หากไม่บอกมาเช่นนี้ ก็ไม่เชื่อว่าจะมีใครกล้า เช่นเดียวกับเรื่องดีเบต ถ้ากกต.บอกว่าได้ จะได้สบายใจ หากมีการฟ้องร้องตรงนี้จะช่วยได้เยอะ ทั้งนี้ หาก กกต.ตอบว่าได้แล้วการจะไปหรือไม่อยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์

ที่กฎหมายระบุให้ข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลาง คำว่าเป็นกลางมีความหมายไม่ไปโน้มเอียงกับฝ่ายใด ถ้าดีเบตแล้วพูดนโยบายของตัวก็ถือว่าเป็นกลางซึ่งอาจจะคล้ายกับนโยบายพรรคอื่น เพียงแต่อย่าไปขานรับนโยบายพรรคไหนก็แล้วกัน จึงยากนิดนึงสำหรับคนที่เป็นนายกฯ อย่างพล.อ.ประยุทธ์ หากจะรับไปดีเบต

แต่แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคอื่นไม่ยุ่งยากในเรื่องนี้ เพราะไม่มีสถานะเป็นข้าราชการ แต่พล.อ.ประยุทธ์ มีความจำเป็นตรงเป็นกลาง ดีเบตได้ เราก็อยากดู แล้วดีเบตอย่างไรให้เป็นกลางถ้าทำได้ก็โอเค ถ้าทำไม่ได้ก็เสี่ยง และถ้าไปพูดถึงนโยบายพรรคก็ถือว่าเอนเอียง แต่ถ้าตอบให้เป็นนโยบายตัวเองถ้าตอบเป็นมันทำได้

เมื่อถามว่า หากสิ่งที่พูดไปสอดคล้องกับนโยบายพปชร. นายวิษณุ กล่าวว่า ทำไมไม่คิดว่านโยบายพรรคพปชร.มาสอดคล้องกับรัฐบาล หากพูดเป็นมันไม่ขัดความเป็นกลางของข้าราชการ หากพูดไม่เป็นอันตราย และการดีเบตคือการตั้งคำถามเดียวกันให้ทุกคนตอบ บางคำถามเป็นคุณเป็นโทษ บางคำถามคนอื่น แต่บางคำถามพล.อ.ประยุทธ์ ตอบอย่างไรก็เสียเปรียบ ไม่ใช่ตอบไม่ได้แต่จะถลำไปในสิ่งที่ท่านไม่ควรพูด

ส่วนจะพูดคำว่าประชารัฐนั้นพล.อ.ประยุทธ์พูดได้ แต่ถ้าจะพูดว่าพลังประชารัฐนั้นอันตราย เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีสถานะเป็นคนนอกพรรคพปชร.การไปร่วมดีเบต เข้าข่ายชี้นำพรรคหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็มีโอกาสที่เป็นอย่างนั้น ตนจึงเป็นห่วงว่าตอบเป็นหรือเปล่า








Advertisement

เมื่อถามว่า สถานะของผู้สมัครส.ส.กับแคนดิเดตนายกฯ เทียบเท่ากันหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เทียบกันไม่ได้ มีความแตกต่างกันมาก เมื่อถามว่า ความเป็นเจ้าหน้าที่รัฐของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถอ้างความเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในการร่วมดีเบตใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้ากกต.บอกว่าได้จะได้หมดเรื่อง

แต่การไปร่วมวงดีเบตตนยังนึกไม่ออกจะพูดนโยบายของตัวของ พล.อ.ประยุทธ์หรือนโยบายของพรรค และโดยนิตินัย พฤตินัย หรืออะไรก็ตาม วันนี้เราพยายามไม่ให้สองอย่างเชื่อมโยงกัน ฉะนั้น เวลาพูดท่านอาจจะตอบในนโยบายของท่านเอง อยู่ที่เทคนิคของผู้ร่วมวงดีเบตที่จะทำให้เห็นว่าสิ่งที่พูดเป็นนโยบายตัวเองนโยบายพรรค หรือนโยบายของหลายพรรค

เมื่อถามว่า กรณีหนังสือกระทรวงมหาดไทยสอบถามกกต.ว่าผู้บริหารท้องถิ่นสามารถช่วยผู้สมัครส.ส.หาเสียงหลังเวลาราชการได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เมื่อมีข้อสงสัยสอบถามไปเป็นสิ่งที่ดี เพราะก่อนหน้านี้มหาดไทยเคยมีหนังสือเวียนว่าผู้บริหารและสมาชิกท้องถิ่นทำอะไรได้หรือไม่ได้

ก่อนการประกาศใช้กฎหมายเลือกตั้ง วันนี้เมื่อกฎหมายเลือกตั้งและพ.ร.ฎ.เลือกตั้งออกมาจึงสอบถามไปอีกรอบ เพราะหนังสือเวียนครั้งแรกบอกว่าทำไม่ได้ แต่มหาดไทยมานึกว่าบางอย่างอาจทำได้จึงสอบถามกกต.ไป ที่ผ่านมามหาดไทย เคยถามกกต.ในส่วนสมาชิกท้องถิ่นได้รับคำตอบว่าทำได้ ครั้งนี้จึงถามในส่วนของผู้บริหารท้องถิ่น

เมื่อถามถึงคุณสมบัติพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นหัวหน้าคสช.จะถือว่าขัดต่อการเป็นแคนดิเดตนายกฯ รัฐธรรมนูญ มาตรา 98 หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หัวหน้าคสช.ไม่ถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามนิยาม ม.98 ของรัฐธรรมนูญ

เพราะผู้ที่รับเงินเดือนของรัฐไม่ใช่ทุกคนจะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตราดังกล่าว และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เคยมีคำวินิจฉัยเมื่อปี 57 ว่า คสช.ไม่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน เนื่องจากไม่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีสถานะเป็นองค์กรหนึ่งที่ตั้งขึ้นชั่วคราวตามรัฐธรรมนูญ

แอดไลน์ข่าวสดไม่พลาดทุกข่าวสารเพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน