กกต.เลย เรียกพบ ‘พรรคสามัญชน’ ชี้ สปอตคำว่า ‘เผด็จการทหาร’ มันดูรุนแรงเกินไป
พรรคสามัญชน – วันที่ 28 ก.พ. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดเลย นางวิรอน รุจิไชยวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เบอร์ 21 และน.ส.ภัทราภรณ์ แก่งจำปา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 22 จ.เลย พรรคสามัญชน พร้อมผู้สนับสนุนกว่า 20 คน ยืนยันไม่ยอมเอาคำว่า เผด็จการทหารและโซ่ตรวนออก หลังจากที่กกต.เลย ขอให้พรรคสามัญชน เอาคำว่าเผด็จการทหารและโซ่ตรวนออก จากสปอตหาเสียง
นางวิรอน เปิดเผยว่า มา กกต.วันนี้เนื่องจากทาง กกต.เลย มีหนังสือไปที่บ้าน แจ้งให้ตัดคำว่า เผด็จการทหารและโซ่ตรวน ในสปอตหาเสียงของพรรคที่จะออกในวิทยุและสื่อต่างๆ ออก อ้างว่าเป็นคำเสียดสี และเป็นภัยกับความมั่นคง ซึ่งคำว่า เผด็จการทหาร เป็นคำที่คนไทยรับทราบกันดีอยู่แล้ว พรรคเราทำตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประเทศ
กลุ่มเราและในชุมชนเราเคยประสบปัญหาด้านนี้มาก่อน สมัยต่อต้านการทำเหมืองทองคำ ภูทับฟ้า ชาวบ้านทั้งถูกทำร้าย และทหารก็เข้าไปอยู่ในชุมชนของเรา เหมือนเข้ามาคอยควบคุมชาวบ้านเป็นเวลา 3 เดือน จนเราถูกกำจัดสิทธิ์ทุกอย่าง
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ถึงแม้ตอนนั้นไม่มีการเลือกตั้งเราก็ถูกกำจัดสิทธิ์แล้ว แม้เราจะรณรงค์ในเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ก็ถูกข่มขู่และคุกคาม ทหารไม่ให้เราชุมชุนเกิน 5 คน ไม่ให้จับกลุ่มคุยกัน ซึ่งในเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เป็นนโยบายพรรค แต่เป็นสิ่งที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบโดยตรงอยู่แล้ว เราและชุมชนรู้เรื่องนี้ดี เราพูดตามความจริง เราเคยเจอมากับชีวิตเราเอง ไม่ได้บิดเบือนและไม่เสียดสี วันนี้ที่มา กกต.เพื่อยืนยันจะใช้คำว่า เผด็จการทหารและโซ่ตรวน ออกสปอตหาเสียงตามปกติ
ด้าน พ.ต.ท.สันติ ขั้นพิภพ หัวหน้างานพรรคการเมือง ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนและพรรคการเมือง กล่าวว่า ทางกกต.เลย ให้โอกาสผู้สมัครแต่ละพรรคที่ทำสปอตหาเสียงส่งทางสถานีวิทยุ ชี้แจงนโยบายให้ประชาชนรับทราบทั่วๆ ไป แต่หลังจากตรวจสอบพบมีพรรคสามัญชน ส่งสปอตมาและพบบางข้อความไม่เหมาะสม จึงเรียกให้ผู้สมัครมาชี้แจงและตกลงว่าพอจะปรับเปลี่ยนข้อความได้หรือไม่
ซึ่งคำว่าเผด็จการทหาร เป็นการระบุ เพราะคำว่าเผด็จการ ไม่จำเป็นต้องเป็นทหาร ทั่วๆ ไปก็เป็นเผด็จการได้ จึงอยากให้ใช้คำที่นุ่มนวล ไม่ต้องระบุ เพียงแต่ใช้คำว่าเผด็จการ โดยตัดคำว่าทหารออก ในเรื่องนี้แม้ว่าผู้สมัครยังคงยืนยันไม่ตัดออก ก็ออกสปอตได้ แต่ผู้สมัครต้องรับผิดชอบเอง กรณีมีคนร้องเรียนมา ทางกกต.ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายต่อไป
